หวั่นเหยื่อรัสเซียถล่ม “ดนีปรอ” พุ่ง 80 ศพ ทั่วโลกแห่ประณาม-โจมตีไร้มนุษยธรรม
หวั่นเหยื่อรัสเซียถล่ม – บีบีซี รายงานวันที่ 16 ม.ค. ถึงสถานการณ์ความไม่สงบใน ยูเครน หลังกองกำลังรัสเซียหวนโจมตีในหลายเมืองทั่วประเทศ โดยเฉพาะกรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟ เมืองออแดซา และ เมืองดนีปรอ ทางภาคตะวันออก ซึ่งอาคารที่พักอาศัยสูง 9 ชั้นถูกขีปนาวุธยิงถล่มในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้บางส่วนของอาคารพังทลายกลายเป็นเศษซาก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ยังสูญหาย 44 คน และราว 70 คนได้รับบาดเจ็บ
นายบอริส ฟิลาตอฟ นายกเทศมนตรีเมืองดนีปรอ กล่าวว่าในจำนวนผู้บาดเจ็บมีอย่างน้อย 10 คนที่อาการสาหัส และว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมจากซากอาคารดังกล่าว ด้านนายกรัฐมนตรีมาแตอุช มอราวีแยตสกี ผู้นำโปแลนด์ กล่าวประณามการโจมตีว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และว่ารัสเซียแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องการก่ออาชญากรรมสงครามต่อต้านพลรือน
ขณะที่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ว่าปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ “ทุกอย่างกำลังพัฒนาภายใต้กรอบแผนงานของกระทรวงกลาโหมและคณะเสนาธิการ” นายปูตินกล่าวย้ำ
ส่วน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. ว่าได้รับข้อความแสดงความเสียใจจากรัฐบาลทั่วโลก พร้อมกล่าวประณามประชาชนชาวรัสเซียที่นิ่งเฉยต่อการโจมตีอันโหดเหี้ยมที่พุ่งเป้าเข่นฆ่าพลเรือนชาวยูเครน
โดยนายเซเลนสกีใช้ภาษารัสเซียกล่าวว่า “ใครก็ตามที่ตอนนี้ไม่สามารถกล่าวประณามความโหดร้ายนี้ ความเงียบที่แสนขลาดเขลาของคุณ ความพยายามของคุณที่รอให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจะจบลงด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าสักวันหนึ่งผู้ก่อการร้ายกลุ่มเดียวกันนี้จะมาหาพวกคุณ”
ผู้นำยูเครนระบุอีกว่าหนึ่งในเหยื่อเป็นเด็กหญิงวัย 15 ปีที่ถูกลูกหลงเสียชีวิต และยังมีเด็ก 2 คนที่ต้องกลายเป็นกำพร้า นอกจากนี้การโจมตีในกรุงเคียฟและเมืองคาร์คิฟเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. ยังทำให้โครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า ได้รับความเสียหายอย่างหนักและต้องใช้เวลาในการซ่อมแซม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เคลมผลงาน ! กองทัพรัสเซีย -บริษัททหารรับจ้างซัดกันนัว รัสเซียอ้าง ‘ยึดเมืองโซเลดาร์’
- สมรภูมิโซเลดาร์เดือดฝ่าหนาวติดลบ โลกระทึกทัพยูเครนตรึงแนวสู้ไม่ถอย