มาร์กอส โรโฮ ปราการหลังของ โบคา จูเนียร์ส ทีมดังในศึกลูกหนังลีกอาร์เจนตินา ถูก สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอมเมโบล) สั่งลงโทษแบน 5 เกม และปรับเงินอีก 25,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 846,000 บาท)
เป็นผลจากการที่ ดาวเตะวัย 31 ปี ดันคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจบเกมที่พบกับ แอตเลติโก มิเนโร่ ทีมดังจากบราซิล ในฟุตบอลถ้วย โคปา ลิเบอตาดอเรส รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
โดยชนวนเหตุมันเกิดจากการที่บรรดานักเตะของ โบคา จูเนียร์ส ไม่พอใจคำตัดสินหลัง มาร์เซโล่ ไวกันด์ ทำประตูให้กับทีมได้แต่กลับถูก VAR ยึดสกอร์คืนทำให้เกมจบด้วยการเสมอกัน 0-0 ทั้งสองนัด ทำให้ต้องไปตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเป็นทีมดังจากบราซิล ที่เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-1
ทำให้บรรดาผู้เล่นของ โบคา จูเนียร์ส พากันบุกไปยังห้องแต่งตัวของนักเตะเจ้าถิ่นแต่ก็ต้องปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้ามายุติเหตุการณ์ด้วยแก๊สน้ำตา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีหลักฐานเป็นวิดีโอชัดเจนว่า อดีตกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่จริงด้วยการเดินเข้าไปชกการ์ดรายหนึ่งในอุโมงค์ รวมถึงหยิบถังดับเพลิงขึ้นมาทุ่มใส่ผู้เล่นทีมคู่แข่ง
ซึ่งสุดท้าย สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอมเมโบล) ได้ออกแถลงการณ์ลงโทษ มาร์กอส โรโฮ ว่า “การลงโทษนี้เป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 73 และ ตามประมวลกฎหมายวินัยของ คอมเมโบล ทำให้ มาร์กอส โรโฮ จะห้ามลงเล่นในทุกรายการ 5 นัด และจะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ”
สำหรับ มาร์กอส โรโฮ กองหลังฟ้าขาว เพิ่งย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาร่วมทีมในบ้านเกิดเมื่อต้นปี 2021 แต่กลับสร้างวีรกรรมมากมายทั้งการโดนใบเหลืองแดงในเวลาเพียงแค่ 2 นาทีในเกมที่พบกับ ริเวอร์เพลท เมื่อสัปดาห์ก่อน