‘หมอหยก’ ไม่สบายใจ ‘พิมรี่พาย’ ไลฟ์ขอโทษ แต่เอาเอกสารส่วนตัวมาเปิดเผย ทำครอบครัวถูกรบกวน เผยตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มีใครติดต่อมา
กรณี น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์คนดัง เดินทางเข้าแจ้งความ หลังจากตรวจสอบพบว่า มีบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์ มาสมัครทำงานในคลินิกโดยปลอมเอกสาร สวมชื่อแพทย์จริงๆ มาสมัคร
ต่อมา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ‘พิมรี่พาย’ แถลงผ่านไลฟ์ ร้องไห้ตอนขอโทษลูกค้า และหมอตัวจริงที่ถูกแอบอ้าง โดยระบุว่า กราบขอโทษจากใจจริง ที่ไม่คัดกรองทีมงานให้ดี ถึงแม้ว่าจะเกิดจากส่วนไหนก็แล้วแต่พิมสำนึกผิดและขอโทษจากใจจริง พร้อมระบุว่า ส่งเบาะแสมา จะให้แสนหนึ่ง เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า แต่หมอปลอมต้องกลับมารับผิดชอบสิ่งที่ทำ
ขณะที่ เพจ อิส คิวท์ คลินิก โพสต์ข้อความ ระบุว่า ตอนนี้ทางอิสคิวท์ได้รับข้อมูลมาว่า ทาง KS Clinic ที่หมอปลอมได้แอบอ้างว่าเคยเป็นหมออยู่ที่นี่ แต่ความจริงแล้วเป็นอดีตเซลส์ มีพฤติกรรมชอบถ่ายรูปในคลินิก สวมรอยเป็นหมอ ทำให้คลินิกได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
หลังจากได้เบาะแส ชื่อจริง นามสกุลจริงของมิจฉาชีพรายนี้ ทางอิสคิวท์ก็ได้ส่งขัอมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย เตรียมตัวรับกรรมที่ตัวเองก่อได้เลยค่ะ #แสนแตกแล้ว #หมอปลอมเตรียมนอนคุก
ล่าสุด หมอหยก ผู้เสียหายที่ถูกแอบอ้างชื่อ โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอพูดในฐานะผู้เสียหายหน่อยนะคะ สืบเนื่องมาจากการไลฟ์ของคุณพิมรี่พายเมื่อวานนี้ หยกรู้สึกไม่สบายใจกับการที่ถูกเอาเอกสารข้อมูลส่วนตัวมาไลฟ์โดยไม่บอกกล่าว(ถ้าทราบจะขอให้เบลอข้อมูลส่วนตัวก่อน) ทำให้มีนักข่าวได้ข้อมูลจากตรงนี้และบุกไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่ถึงที่บ้าน แล้วยังไปรบกวนคลินิกที่หยกเคยทำก่อนที่จะมาต่างประเทศอีก
ตั้งแต่เกิดเรื่อง หยกไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางest cute clinicหรือทางคุณพิมรี่พายแต่อย่างใด ตามที่ให้ข่าวบอกว่าติดต่อหยกไม่ได้ ซึ่งหยกมีช่องทางให้ติดต่อและใช้ชี้แจงตามที่สื่อต่างๆได้แชร์ไป
ถามว่าหยกต้องการอะไร คุณพิมรี่พายก็ขอโทษ (ผ่านสื่อ) ทำไมไม่ไปฟ้องคนที่ปลอมแปลงเอกสาร และแอบอ้าง อันนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างไปตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้วค่ะ
แต่หยกก็ยังหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจจากทางคลินิกและทางคุณพิมรี่พายนะคะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะผู้ประกอบการของวิชาชีพทางการแพทย์ทั้งหลาย เจ้าของคลินิกและผู้มีใบอนุญาตประจำคลินิกมีหน้าที่ตรวจสอบเเละคัดกรองคนที่จะเข้ามาทำงานในคลีนิคของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
มิใช่เพียงแค่อ้างว่าใส่แมสทำให้ไม่เห็นหน้าตา หรือเชื่อถือเพียงแค่เอกสารไม่กี่แผ่น โชคดีที่ครั้งนี้มีคนทราบว่าคนที่ทำงานในคลีนิคดังกล่าวเป็นหมอปลอมและยังไม่มีคนไข้คนไหนได้รับอันตราย
อันตรายดังกล่าวจากการฉีดกับหมอปลอมมีตั้งแต่ปวดบวมเล็กน้อย ไปจนถึงเข้าเส้นเลือด ผิวหนังไม่มีเลือดมาเลี้ยง ตาบอด ฯลฯ
อยากให้ลองคิดตามว่า หากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา แล้วสังคมเข้าใจว่าหยกเป็นคนทำ แบบนี้หยกจะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่สะสมมา การพิสูจน์ตัวตนเข้าทำงานในอนาคต กระทบหมดเลยนะคะ
ตอนที่หยกเเสดงตัวว่าเป็นหมอตัวจริงโดนแอบอ้าง ยังมีคนกล่าวหาว่าหยกเป็นหมอปลอม ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจมากจริงๆ ..ช่วยเข้าใจหน่อยนะคะ ที่ต้องออกมาโพสต์แบบนี้
อ่าน