หนุ่มใหญ่โดนคุกคามหนัก ชายแปลกหน้าเซลฟี่เก๋งบีเอ็มหน้าบ้าน หลังชี้ภาพถนนทุจริต ตามจม.ลาตายหนุ่มวิศวะ ผู้นำชุมชน-เพื่อนก็มาเตือนให้ระวังตัว
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับโทรศัพท์ขอพบผู้สื่อข่าว ที่ร้านขายข้าวแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลนากลาง เมื่อไปถึงพบชายคนหนึ่งขับรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว รุ่นx1 ทราบชื่อ นายพรหมมา (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู
นายพรหมมา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตามที่ปรากฏข่าวการเสียชีวิตของ นายภาณุเมศวร์ หรือเอ๊ะ วิศวกรโยธากองช่าง ทต.นากลาง และเขียนจดหมายลาตาย แฉการทุจริตในหน่วยงาน และถนนชื่อซอยเพชรสุวรรณ 6 ก็ปรากฏชื่อในจดหมายเรื่องการก่อสร้างมีปัญหาถนนชำรุดแตกร้าว ตั้งแต่ก่อสร้างเสร็จ และฉาบปูนปกปิดข้อบกพร่องดังกล่าว จนนำไปสู่การตรวจสอบของหลายหน่วยงาน รวมทั้งสื่อมวลชน
นายพรหมมา กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ14.00 น. ผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งโทรศัพท์หาตนสอบถามว่า รู้จักถนนซอยเพชรสุวรรณ 6ที่ปรากฏชื่อในจดหมายผู้ตายหรือไม่ ตนก็ยอมรับว่ารู้จัก เพราะตนเป็นคนนากลางโดยกำเนิด จึงคุ้นเคยกับพื้นที่ดี
ผู้สื่อข่าวสำนักนั้นจึงขอให้ตนพาไปดูถนนซอยเพชรสุวรรณ 6 ตนเกรงใจจึงพาผู้สื่อข่าวสำนักนั้นไปดู และพบว่ามีผู้สื่อข่าวคนอื่นอยู่ด้วย เมื่อไปถึงตนชี้ให้ดู ผู้สื่อข่าวทั้ง 2จึงบันทึกภาพถนนและมีภาพของตนเป็นคนชี้จุด ในวันที่ 29-30 พ.ย.65 ก็มีภาพของตนปรากฏในสื่อหลายสำนักที่เผยแพร่ การลงพื้นที่ตรวจสภาพถนนสายซอยเพชรสุวรรณ6
ซึ่งตนเห็นแล้วก็ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากมีการเปิดเผยชื่อของตนในสื่อเหล่านั้น จนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 12.00น. ตนสังเกตเห็นชายวัยประมาณ 30-40 ปี เดินมาเซลฟี่ภาพกับรถยนต์ของตนที่จอดอยู่หน้าบ้าน ตนออกมาจะสอบถามชายคนนั้นก็เดินหลบไปทางซอยหลังบ้านหายไป ตามไม่ทัน
จนค่ำวันที่ 1 ธ.ค.65 ตน ทานข้าวเย็นอยู่กับเพื่อนมีผู้นำชุมชน 2-3คน แวะเข้ามาหา พร้อมพูดเหมือนเตือนตนว่า ให้ระมัดระวังตัว พร้อมบอกว่า เห็นภาพตนปรากฏในสื่อ เกรงจะไม่ปลอดภัย ทีแรกตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อกลับมาย้อนคิดทีหลัง เรื่องมีคนมาถ่ายภาพรถที่บ้านตน จึงทำให้รู้สึกกังวลอยู่บ้าง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ก่อนหน้านี้มีปัญหาอะไรกับใครหรือเปล่า นายพรหมมา ซึ่งมีอาชีพรับเหมางานก่อสร้าง กล่าวว่า ในเรื่องการทำงานก็ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใครเนื่องจากงานที่ตนรับจ้างเหมาระยะ 1 ปีมานี้ก็เป็นงานเล็กๆ มูลค่าไม่มาก ส่วนใหญ่ก็อยู่ต่างตำบล อำเภอ ไม่น่าเป็นปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กลัวเพราะคิดว่ามีปัญหากับการไปชี้ถนนซอยเพชรสุวรรณ6 หรือไม่ นายพรหมมา ก็มีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนตอบว่า ตนก็ไม่ทราบเพียงกังวลเพราะผู้เฒ่าผู้แก่ที่นับถือมาเตือน หรือเขาเตือนเพราะเห็นภาพตนในทีวีหรือเปล่า ก็ไม่ทราบ พร้อมเล่าว่าปัจจุบันตนเลิกลากับภรรยา อาศัยอยู่กับแม่ที่ชราและตาพิการ 2 คนเท่านั้น
“ชีวิตผมก็ห่วงแต่แม่คนเดียวนี่แหละ ฐานะก็พออยู่พอกินไม่ลำบากอะไร ที่ผมอยากบอกก็คือ พี่นักข่าวเขาไม่รู้จักใครก็มาถามผม ให้ผมพาไปผมก็พาไป เพราะคนในตลาดกกค้อ (ชื่อเรียกตลาดเทศบาลนากลาง) ส่วนใหญ่รู้จักหมด ถ้าพี่นักข่าวไปถามเขาก็ชี้ไปได้หมด แค่ไม่มีคนพาไปเท่านั้น
ถ้าใครจะโกรธหรือไม่พอใจว่า ผมพานักข่าวไป ก็ขอบอกว่าไม่ใช่ผม คนอื่นเขาก็สามารถไปชี้จุดได้ เพราะชื่อโครงการมันก็เด่นหราในจดหมายน้องวิศวะแล้ว ป.ป.ช. ปปท. เขาไปก่อนนักข่าว ที่ผมพาไปด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นการ เซฟพรหมาเนาะ” นายพรหมมา กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ไปแจ้งความไว้แล้วหรือไม่ นายพรหมมา กล่าวว่า ไม่ได้แจ้ง แต่ถ้าหากมีอะไรที่คาดไม่ถึงจริง จนท.ก็คงมีข้อมูลหากเรื่องของตนปรากฏในสื่อไว้เป็นหลักฐานบ้าง