วันที่ 2 มิถุนายน 2567 เวลา 00.30 น. รับแจ้งมีเหตุ ชายคลุ้มคลั่งพยายามก่อเหตุวางเพลิงเผาห้องตัวเอง ภายในซอยประชาอุทิศ 45 จึงจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยราษฎร์บูรณะ และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมทั้งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เขตราษฎร์บูรณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
บริเวณที่เกิดคือ บ้านเลขที่ 860 /2 หมู่ 1 ซอย ประชาอุทิศ 45 ถนน ประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานครฯ อาคารปูนสูง 3 ชั้นดัดเเปลงแบ่งเป็นห้องให้เช่า พบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในห้องพักอาศัยบริเวณชั้นที่ 3 ห้องที่ 2 ก่อนจะลุกลามไปยังห้องที่ 3 อย่างรวดเร็ว
- หลวงพี่ รุดช่วย! ปั๊มหัวใจ สามเณรท้อชีวิต หลังทำเรื่องสลดในวัด
- หนุ่ม CEO คลินิกดังรวบแล้ว! ทำร้ายร่างกายหนุ่มนศ. หลังนัดเจอผ่านแอป
- ชายวัย 33 ถูกยิงเจ็บสาหัส หน้าโรงงานทองคำปลิว จ.นครศรีธรรมราช
มีผู้ติดอยู่ในห้องต้นเพลิง 1 ราย ทราบชื่อคือ นายคริสตัส อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง อาสาสมัครจึงเร่งให้การช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล ใช้เวลาร่วม 5 นาทีถึงทำการช่วยเหลือผู้ติดค้างภายในห้องออกมาเป็นผลสำเร็จ ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน ขา และบริเวณตามลำตัว ประมาณ 40% ของร่างกาย ก่อนจะให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบนำตัว นายคริตตัส ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเจริญกรุง
จากการสอบถามผู้พักอาศัยคนอื่นกล่าวว่า นายคริสตัสเป็น คนวางเพลิงเหตุเพราะภรรยาหอบลูกหนี เขาก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้วก็โวยวายสักพักนึงก็มีแสงเพลิงเกิดขึ้น เลยตะโกนบอกให้คนที่พักอาศัยภายในตึกรีบวิ่งหนีกันออกมา
ด้านหลานสาวกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุโทรหาตนหลายรอบ บอกว่า ภรรยาหอบลูกหนี ไปโทรตามให้ที แต่ภรรยาเค้าไม่ได้หนีไปไหน วีดีโอคอลมาอีกทีก็เผาตึกแล้วจึงได้รีบมา ตนเป็นแค่หลานไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก เค้าทำงานอะไรก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยได้ถามกัน
นายคริสตัสผู้ก่อเหตุและผู้ได้รับบาดเจ็บอ้างว่า ตนแค่จุดยากันยุงเท่านั้น ไฟมันลุกลามไปทั่วห้องตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ตนก็ไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ตอนออกจากห้องไม่ได้แล้ว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเจ้าของห้องต้นเพลิง ทางอาสาสมัครได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนความเสียหายทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นหรือพอที่จะให้การได้ถึงจะเชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม ถึงกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป