หนุ่มเวียนหัวบ่อยมากๆ คิดว่าแค่ทำงานหนัก หมอก็บอกแค่พักผ่อนน้อย แต่แฟนสาวแนะนำลองติดกล้องที่บริษัท สุดท้ายช็อก โดนเพื่อนร่วมงานวางยาจริงๆ

นายหลี่ พนักงานของสถาบันวิจัยในมณฑลจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ด้วยความสามารถและความว่องไวของเขา ทำให้ขึ้นมารับตำแหน่งผู้จัดการโครงการคนใหม่ของสถาบันวิจัยในปี 2015 และค้นพบ “แผนสกปรก” ของเพื่อนร่วมงาน ที่ตั้งใจเล่นงานกันแบบถึงแก่ชีวิต

ตามรายงานพบว่า หลังจากนายหลี่ได้รับโปรเจกต์ใหม่ เขามักจะรู้สึกปวดหัว วิงเวียน บางครั้งก็แน่นหน้าอก ในตอนแรกคิดเพียงว่าสุขภาพกำลังแย่ลง เพราะทำงานหนักมากเกินไป นอนดึกเพราะต้องทำงานล่วงเวลาบ่อยครั้ง บางครั้งถึงขนาดลืมกินหรือลืมนอนด้วยซ้ำ

เมื่อสุขภาพของเขาทรุดโทรมลงอย่างมาก ก็เริ่มกลัวว่าหากล้มป่วยจะส่งผลกระทบต่องาน ดังนั้นจึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ารับการตรวจหลายครั้ง แพทย์ทุกคนล้วนวินิจฉัยว่าอาการของเขาไม่มีปัญหาร้ายแรง เพียงแค่ต้องให้พักผ่อนและรับประทานอาหารให้มากขึ้น

แต่แฟนสาวของเขายังรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก เธอรู้ว่าเขาเป็นคนจริงจังและทุ่มเทในการทำงาน กลัวว่าเขาจะหมกมุ่นกับงานจนลืมคำแนะนำของแพทย์ ดังนั้นเธอจึงเข้ามาดูแลเรื่องการกินและการนอนของเขาอย่างใกล้ชิด ทุกวันหลังเลิกงานแฟนสาวจะไปที่บริษัทของเขา และกินข้าวด้วยกันในที่ทำงานของเขาด้วยกัน

กระทั่งวันหนึ่งเธอจิบน้ำจากแก้วของเขาและรู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆ เธอหันมาถามทันทีว่าเขาเติมอะไรลงไปในน้ำหรือไม่ เขาฟังแล้วก็รู้วสึกงุนงงเพราะไม่ได้เติมอะไรลงไปแน่นอน ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นในใจคือ “น้ำดื่มที่สถาบันวิจัยปนเปื้อนหรือไม่?”

เพื่อค้นหาคำตอบของปัญหานั้น นายหลี่จึงนำแก้วน้ำไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ และผลที่ได้ทำให้เขาตกใจมาก น้ำนี้มี “โซเดียมไตรไซด์” ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นพิษสูงที่สามารถละลายในน้ำ และยากต่อการเผาผลาญในร่างกาย หากรับประทานโดยไม่ได้ตั้งใจ สารนี้อาจไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่ถ้ามีได้รับในระดับความเข้มข้นสูงเป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย

ความจริงที่เพิ่งค้นพบทำให้นายหลี่รู้สึกตกใจอย่างมาก และคิดได้ทันทีว่าอาการปวดหัวและเวียนศีรษะก่อนหน้านี้เกิดจากสารพิษ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดจึงมีสารพิษในแก้วน้ำของเขา สิ่งที่คิดได้คืออาจมีคนวางยาเขา? แฟนสาวจึงแนะนำให้แอบติดตั้งกล้องวงจรปิดในสำนักงาน เพื่อค้นหาความจริงและตัวผู้กระทำผิด

หลังจากนั้นไม่นานก็พบ “มือวางยาพิษ” และทำเอานายหลี่เจ็บหัวใจ เพราะสำหรับเขานั้นบุคคลนี้เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและพี่ชายที่ดี แต่ก็จำเป็นต้องนำหลักฐานไปแจ้งต่อตำรวจ ก่อนสามารถจับกุมได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ก่อเหตุสารภาพว่า เขาและนายหลี่จบปริญญาเอกมาเหมือนกัน อีกทั้งเขายังทำงานที่สถาบันนี้มาก่อน ในตอนแรกเขามีความกระตือรือร้นอย่างมากที่จะช่วยเหลือนายหลี่ ปฏิบัติต่อกันเหมือนพี่น้องโดยไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ เป็นคนมีฝีมือและมีความละเอียดรอบคอบ ถึงจะไม่ได้อุทิศตนให้กับงานเท่านายหลี่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานมาหลายปีเขาไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลย ในทางตรงกันข้ามนายหลี่มีความก้าวหน้า ได้รับความเคารพนับถือจากผู้บังคับบัญชา ได้รับมอบหมายให้ทำโปรเจกต์ใหม่ มีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอีก แม้ภายนอกเขาจะแสดงความยินดีด้วย แต่ในใจเขาอิจฉามากคิดว่าเขาก็สามารถทำโปรเจกต์นี้ได้เหมือนกัน

อีกทั้งเขายังคิดว่านายหลี่อกตัญญู ขัดขวางเส้นทางอาชีพของเขา อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ต้องการวางยาพิษ แต่เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดคือ นายหลี่เป็นคนจริงจังในการทำงานมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกวิจารณ์ถึงความสะเพร่าที่ส่งผลกระทบต่อโครงการ การต่อว่านั้นทำให้เขาเสียหน้า ด้วยความโกรธจึงตัดสินใจแก้แค้นในที่สุด

ทั้งนี้ แม้ว่าแรงจูงใจและพฤติกรรมถือเป็นการ “ฆาตกรรมโดยเจตนา” ภายใต้มาตรา 232 ของประมวลกฎหมายอาญาของจีน โชคดีที่การวางยาพิษไม่ประสบผลสำเร็จ และสุขภาพของเขาเหยื่อก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังสารภาพความผิดทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีตามกฎหมาย