หนุ่มเรียนจบมหาวิทยาลัยดัง มาทำงานเป็นคนส่งของ ถูกชาวเน็ตเย้ย แต่ทุกคนต้องขอโทษหลังได้ยินเงินเดือน

จบมหาวิทยาลัย จบโรงเรียนดีๆ ไปทำงานเป็นคนส่งสินค้าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ในตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปัจจุบัน นักศึกษาจะหางานทำได้ยากขึ้นหลังจากสำเร็จการศึกษา

ล่าสุด โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน ได้เกิดประเด็นถกเถียงกันขึ้น หลังมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทียนจิน ซึ่งเป็นสถานศึกษาหลักของโครงการ 985 (มหาวิทยาลัยหลักที่ดีที่สุดในจีน) หลังจากเรียนจบ เขาก็กลายเป็นคนส่งของในแอปฯ ส่งอาหาร

ซึ่งในความคิดของใครหลายๆ คน คนส่งของคืองานที่ไม่ต้องการการศึกษาใดๆ แม้แต่เด็กประถมก็สามารถทำได้ สิ่งนี้เป็นที่ยอมรับไม่ได้สำหรับผู้มีการศึกษาสูงเช่นเขา หลายความเห็นบอกว่าเขาไร้ความสามารถ ไม่มุมานะพอ และพยายามหางานในออฟฟิศเหมือนเพื่อนๆ

โดยคนส่งของรายนี้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทียนจินด้วยผลงานการเรียนที่ดี อย่างไรก็ตาม วิชาเฉพาะที่เขาเรียนนั้นค่อนข้างเฉพาะเจาะจง นั่นคือ โลจิสติกส์ หลังจากสำเร็จการศึกษา งานที่เขาสามารถทำได้อย่างมืออาชีพมีจำกัด เขาต้องทำงานเป็นคนส่งของเป็นเวลา 3 ปี เพื่อหาเงิน

ชายหนุ่มอธิบายถึงเหตุผลของการเลือกทำอาชีพนี้ว่า สภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหางานที่น่าพอใจได้ ผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนมากจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเช่นเขา ได้รับเงินเดือนเพียง 3,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 14,000 บาท)

ขณะที่การทำงานเป็นผู้ส่งสินค้า แม้จะเป็นงานหนักแต่มีรายได้มากกว่านั้นมาก โดยเขามีรายได้ 400,000 หยวน (ประมาณ 1,957,000 ล้านบาท) ใน 3 ปี ซึ่งเฉลี่ยประมาณ 11,000 หยวนต่อเดือน (53,000 บาท) เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขาได้เงินมากๆ เขาสามารถทำงานอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงสายตาของสังคม

หลังจากชาวหนุ่มรายนี้เปิดเผยเรื่องเงินเดือนของเขา ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ต่างแสดงความตกใจ และบอกตรงกันว่า “ตอนนี้การหาเงินเป็นสิ่งสำคัญ เงินหายากในตอนนี้”

ชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนมองว่านี่เป็นทางเลือกที่โง่เขลา เพราะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า แม้ว่าอาจเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินมากกว่างานใช้สมองในตอนแรก แต่อาจทำงานได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น สำหรับอนาคตในระยะยาวที่อาจเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนัก

อย่างไรก็ตาม บางคนแย้งว่าในตลาดแรงงานทุกวันนี้ น่าเศร้าที่มีทางเลือกไม่มากนัก คนที่ต้องแบกความกังวลเรื่องอาหารและเงินไว้บนบ่าทุกวัน ไม่สามารถพูดถึงอุดมคติและแผนการในอนาคตอันไกลโพ้นได้ อีกทั้งทุกงานมีเกียรติ ตราบใดที่สร้างรายได้ด้วยความพยายามของตัวเอง ไม่ว่าจะทำงานเป็นผู้ส่งสินค้าหรือทำงานอย่างอื่น ก็สมควรได้รับการยอมรับเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุดแล้ว นักศึกษาที่ประสบความสำเร็จสูงเช่นคนส่งของรายนี้ สามารถหางานพาร์ทไทม์หรืองานชั่วคราวที่สามารถรองรับค่าครองชีพของพวกเขาได้ และรออย่างอดทนจนกว่าจะหางานที่เหมาะสมกว่าได้