เหมือนคนละคน! หนุ่มตื่นมาหน้าบวมรุนแรง ลืมตาไม่ขึ้น แถมเจ็บไปหมด ไปหาหมอพบ “ติดเชื้อเป็นไฟลามทุ่ง” ต้นเหตุมาจากแคะจมูก
ชายแซ่เจิ้ง วัย 33 ปี ได้รับความสนใจอย่างมากจากโลกโซเชียลฯ หลังจากถ่ายภาพพลีชีพเพื่อแชร์ประสบการณ์ ติดเชื้อแบคทีเรียจนกลายเป็นไฟลามทุ่ง เนื่องจากการติดนิสัยชอบ “แคะจมูก” ทำให้ใบหน้าบวมขึ้นจนกลายเป็น “หัวหมู”
นายเจิ้งเล่าว่า ในตอนแรกมีแค่จมูกและต่อมน้ำเหลืองเท่านั้นที่เกิดอาการบวม อย่างไรก็ดี เขาไปตรวจที่สถานีอนามัยในชุมชน และได้รับการวินิจฉัยผิดพลาดว่าเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ แต่วันรุ่งขึ้นปรากฎว่าหน้าบวมจนลืมตาไม่ขึ้น และรู้สึกเจ็บมากๆ จึงรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล
แพทย์ที่โรงพยาบาลวินิจฉัยว่า “ติดเชื้อเป็นไฟลามทุ่ง” และบอกว่าการติดเชื้ออาจเกิดจากความเสียหายของเยื่อเมือก ที่เกิดจากการแคะจมูกเป็นเวลานาน ท้องผูกบ่อย และสารพิษที่มากเกินไปซึ่งไม่ได้ขับออกจากร่างกาย
นายเจิ้งได้รับการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีนและตะวันตกร่วมกัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการบวมลดลงหลังจากผ่านไป 7 วัน แต่ยังมีรอยแดงบนใบหน้าอยู่บ้าง ซึ่งกำลังเข้ารับการบำบัดด้วยการส่องไฟ
ไฟลามทุ่ง (Erysipelas) คือการติดเชื้อแบคทีเรียทางผิวหนังแบบเฉียบพลัน สาเหตุหลักมาจากเชื้อแบคทีเรีย เบตา เฮโมไลติก สเตรปโตค็อกคัส กลุ่มเอ (Group A Beta-Hemolytic Streptococcus) อาการโดยทั่วไปของผู้ป่วย ได้แก่ มีไข้สูง ตัวสั่น หนาวสั่น เหนื่อยล้า ปวดศีรษะ อาเจียน และอาการทั่วไปภายใน 48 ชั่วโมงหลังการติดเชื้อครั้งแรก
ผื่นแดงของผิวหนังจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ผื่นจะบวม ร้อน แข็ง เจ็บปวด มีลักษณะคล้ายเปลือกส้ม การติดเชื้อที่รุนแรงยิ่งขึ้นอาจทำให้เกิดถุงน้ำ ตุ่มพอง และเล็บเปื่อย และอาจมีเนื้อตายที่ผิวหนังได้ ต่อมน้ำเหลืองอาจบวม ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำเหลืองได้ บางครั้งอาจเห็นริ้วสีแดงขยายจากผื่นไปจนถึงต่อมน้ำเหลือง