หญิงชราอึ้ง จู่ๆ เงินเข้าบัญชี 3 แสน ลูกชายโอนมาให้ อ่านข้อความแล้วใจสลาย รู้สึกเหมือนเขาไม่ใช่ลูกของเธออีกต่อไป
หญิงชราคนหนึ่งได้รับเงินก้อนใหญ่พร้อมกับข้อความที่ทำให้เธอตัดสินใจแน่วแน่ที่จะกลับไปบ้านเกิด หลังจากดูแลลูกหลานในเมืองใหญ่เป็นเวลา 4 ปี บทความนี้ถูกแชร์โดย คุณหง จากเมืองหนานหนิง ประเทศจีน และกำลังเป็นไวรัลในแพลตฟอร์ม Toutiao
คนมักพูดว่าการเลี้ยงลูกคือการเตรียมตัวสำหรับชีวิตในวัยชรา แต่สำหรับเธอ ความเป็นจริงกลับโหดร้ายกว่าที่คิด เธอมีลูกชายเพียงคนเดียว และคิดว่าคงจะไม่ต้องกังวลมากนักเมื่ออายุมากขึ้น
ตั้งแต่ลูกชายยังเด็ก เธอกับสามีก็เลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดให้เขา ซื้อเสื้อผ้าและของเล่นที่แพงที่สุดให้เขา แม้ว่าผลการเรียนของเขาจะดีในช่วงประถมและมัธยมต้น แต่เมื่อเข้าสู่มัธยมปลาย เขากลับเริ่มดื้อดึงและไม่สนใจการเรียน เพื่อดูแลลูกชายให้ดีที่สุด เธอถึงขนาดยอมทิ้งโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง และเธอกับสามีเช่าห้องใกล้โรงเรียนเพื่อดูแลเขาอย่างใกล้ชิด แต่ลูกชายของพวกเขายังคงทำให้พวกเขาผิดหวัง
หลังจากเขาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สามีก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เธอไม่แน่ใจว่าการเสียชีวิตของพ่อทำให้ลูกชายตื่นตัวขึ้นหรือไม่ แต่เขาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงและเริ่มช่วยแม่ทำงานบ้าน โชคดีที่หลังจากจบมัธยมปลาย ลูกชายได้รับการตอบรับเข้าเรียนในวิทยาลัยอาชีวศึกษา การเรียนไกลบ้านมีค่าใช้จ่ายสูง เธอจึงทำงานหนักและประหยัดทุกบาททุกสตางค์เพื่อดูแลอนาคตของเขา นอกเหนือจากงานหลัก เธอยังรับงานที่บ้านในตอนเย็น เพื่อให้เสร็จตามกำหนดเวลา มีวันที่เธอนอนเพียง 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น
หลังจากเรียนจบ ลูกชายทำงานอยู่ในเมือง เธอใช้เงินออมทั้งหมดช่วยเขาซื้อบ้าน ตอนนั้นเธอคิดว่ามันเป็นความสำเร็จเพราะได้ทำหน้าที่ในการดูแลลูกอย่างเต็มที่
ในปีที่สองของการทำงาน ลูกชายแต่งงาน และตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็ไม่ค่อยกลับมาที่บ้านเกิดแม้ในช่วงเทศกาล เมื่อเธอเกษียณ ลูกสะใภ้คลอดลูกและเธอเก็บกระเป๋าเข้าเมืองเพื่อไปดูแลหลานที่บ้านของลูกชาย เธอไม่เคยมีเวลาพักผ่อนเลยจากงานบ้านและการดูแลหลาน งานบ้านกองทับกันไปไม่มีวันจบ
แม้ว่าการทำงานบ้านจะเหนื่อยกว่าการทำงาน แต่เธอก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกหลาน ปีที่แล้ว หลานชายเข้าโรงเรียนอนุบาล เธอเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น งานของเธอก็แค่ไปตลาด ทำอาหาร และทำความสะอาดบ้าน
ตัดสินใจกลับบ้านเกิด
เมื่อต้นปีนี้ ลูกชายแนะนำให้เธอกลับบ้านเกิด เพราะไม่มีงานบ้านมากมายและพวกเขายังสามารถดูแลกันเองได้ พวกเขายังบอกว่าจะให้เงินเธอเพื่อที่เธอจะได้กลับไปบ้านเกิดและใช้ชีวิตวัยชราอย่างสบายใจ แต่หญิงชราปฏิเสธเพราะหลังจากห่างจากบ้านมา 4 ปี เพื่อนบ้านรอบข้างกลายเป็นคนแปลกหน้า การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับลูกหลานทำให้เธอไม่อยากกลับไปอยู่บ้านคนเดียว
คืนนั้นเธอได้รับการแจ้งเตือนว่าบัญชีของเธอได้รับเงิน 80,000 หยวน ( ราว 3.8 แสนบาท) เธอเปิดดูทันที และพบข้อความที่ทำให้ใจสลาย
“พวกเราให้เงินแม่หลังจากที่คุณดูแลหลานเป็นเวลา 4 ปี ถ้าแม่รู้สึกเศร้าที่จะกลับไปบ้านเกิด แม่สามารถใช้เงินนี้ไปที่บ้านพักคนชรา ที่นั่นจะมีผู้สูงอายุคนอื่นๆ ให้พูดคุยด้วย”
หญิงชรารู้สึกเจ็บปวดที่เลี้ยงลูกชายมากว่า 20 ปี ใช้เงินไปกับเขาอย่างนับไม่ถ้วน และตอนนี้เธอถูกปฏิเสธจากลูกที่ไม่อยากอยู่ใกล้เธอจริงๆ แล้วเงิน 80,000 หยวนนี้ไม่ใช่การแสดงความขอบคุณ บางทีพวกเขาอาจต้องการให้เธอกลับบ้านโดยเร็วแทนที่จะดื้อดึงอยู่ต่อ
หลังจากที่คิดมากทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นเธอรีบเร่งให้ลูกชายพาไปที่สถานีรถบัสเพื่อกลับบ้าน ตอนที่มาส่งเขาพูดซ้ำๆ ว่าเขาจะพาภรรยาและลูกหลานมาเยี่ยมบ่อยๆ จริงๆ แล้วตั้งแต่นั้นมา พวกเขาไม่เคยกลับมาเลย และจำนวนครั้งที่พวกเขาโทรมาถามว่าแม่เป็นอย่างไรบ้างก็น้อยลงเรื่อยๆ
ตัดขาดจากลูกชาย
ในเดือนเมษายนปีนี้ หญิงชราป่วยหนัก และพวกเขาก็ไม่ได้มาเยี่ยมเธอเลย ลูกชายแค่บอกให้ฉักินยาและกินอาหารให้ดีแล้วจะหาย
ตั้งแต่ได้รับเงิน 80,000 หยวน เธอรู้สึกว่าลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ใช่ลูกของเธออีกต่อไป และหลานชายของเธอก็ไม่ใช่หลานชายของเธอ ตั้งแต่เธอป่วยก็ตัดการติดต่อกับพวกเขา และเธอไม่จำเป็นต้องรอให้พวกเขากลับมา เธอแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง หากเธอป่วยจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เธอจะไปบ้านพักคนชราหากจำเป็น
เธอได้เรียนรู้ว่าชีวิตนี้ หากพึ่งพาภูเขา ภูเขาก็จะพัง หากพึ่งพาคนอื่น คนคนนั้นก็จะหนีไป ในชีวิตนี้เธอต้องจำไว้ว่าตนเองคือที่พึ่งที่มั่นคงที่สุด และเธอจะเหมือนต้นไม้แก่ที่ยืนหยัดมั่นคงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต