นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสและแบดมินตัน BBG Princess Cup 2022 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประจำปี 2565 พร้อมมอบรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศในแต่ละประเภท ณ บริเวณรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม
ภายในงานมี น.ส.ปิยวรรณ ภูมิแก้ว ผู้จัดการสโมสรกีฬาบีบีจี กล่าวรายงานการแข่งขัน โดยได้รับเกียรติจาก นาวาเอกพิเศษ สมศักดิ์ ตรีธาร อุปนายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย, ดร.วิชญะ เครืองาม กรรมการและประธานฝ่ายส่งเสริมสนับสนุนแบดมินตันเพื่อมวลชน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ, นายสัมฤทธิ์ อนุภักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-ฝ่ายพัฒนาสังคมและกีฬา กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล และคุณหมิง ชิง จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคเตอร์ สปอร์ตส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมอบรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศแต่ละประเภทด้วย
การแข่งขันเป็นการชิงชัยวันสุดท้าย โดยไฮไลต์อยู่ที่แบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “จ๊อบ” สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล วัย 20 ปี ซึ่งมือวางอันดับ 5 จากสโมสรพรหมลิขิต แบดมินตัน ลงสนามดวลกับเพื่อนร่วมรุ่นที่มีดรีกรีทีมชาติไทยอย่าง “อิฐ” วรท อุไรวงค์ มืออันดับ 1 จาก อบจ.ปราจีนบุรี โดยผลปรากฏว่า สุรสิทธิ์ ใช้การตีขึ้นลูก และเล่นเกมบุกได้ดุดันเฉียดขาดกว่า ไล่ตบทำแต้มโค่นเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-13, 21-14
สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล ครองแชมป์รายการนี้รุ่นทั่วไปเป็นครั้งแรก โดย สุรสิทธิ์ เปิดเผยว่า คู่แข่งในรอบชิงเป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เยาวชน และไล่บี้กันมาตลอด ซึ่งก็ได้วางแผนในการคุมจังหวะเกมนี้ให้ได้ แต่คิดว่าเรามีเกมบุกเข้าทำได้เด็ดขาด ทำให้คว้าชัยชนะไปได้ ส่วนรายการนี้เข้าร่วมป็นครั้งที่ 2 แล้ว และปีนี้สามารถคว้าแชมป์ครั้งแรกได้ด้วย ก็ถือเป็นรายการพิเศษที่น่าจดจำของตัวเอง
“การคว้าแชมป์รายการนี้ถือว่าทำให้มีกำลังใจในการแข่งขันรายการต่อไป เพราะว่าก่อนหน้านี้สภาพผมก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ พอมาโชว์ผลงานได้ดีในรายการนี้ก็รู้สึกมั่นใจขึ้น ทำให้เรามีกำลังใจในการซ้อม และการแข่งขัน ส่วนเป้าหมายต่อไปก็อยากติดทีมชาติ เพราะเคยทำพลาดมาแล้ว 2 ครั้งในการคัดเลือกตัวทีมชาติก่อนหน้านี้ ซึ่งครั้งหน้าก็คิดว่าจะทำผลงานได้ดี” สุรสิทธิ์ กล่าว
ส่วนแบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “อิง” ณัฐณิชา จตุพนาพร นักตบลูกขนไก่สาวมือวางอันดับ 3 จากสมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี ลงสนามดวลกับ ราเชล จุน หลิง ชาน จากสโมสรแบดมินตัน บ้านทองหยอด ซึ่งผลการแข่งขันเป็นทางด้านของ ณัฐณิชา ที่ตบได้อย่างแน่นอนกว่าเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-16, 21-12 คว้าแชมป์ฝ่ายหญิงไปได้
ขณะที่เทเบิลเทนนิส ประเภทชายเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “ดั๊ก” ภัทรธร ภัสระ นักตบหนุ่มทีมชาติ มืออันดับ 1 ประเทศไทย และดีกรีเหรียญทองประเภททีมชาย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม จากสโมสรราชนาวี ลงเจอกับ “ภูมิ” วีรภัทร พุฒิคุณเกษม อดีตเยาวชนทีมชาติจากมหาวิทยาลัยธนบุรี โดยเกมนี้ ภัทรธร ที่ประสบการณ์เหนือกว่า ใช้การเสิร์ฟสปิน และการตบซ้ายพิฆาตเฉียบขาดเอาชนะไป 3-0 เกม 11-6, 12-10, 13-11 คว้าแชมป์ชายเดี่ยวสำเร็จ
หลังการแข่งขัน ภัทรธร ภัสระ เปิดเผยว่า เป็นการคว้าแชมป์ชายเดี่ยวรุ่นทั่วไปรายการนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเข้าร่วมชิงชัยเป็นครั้งที่ 3 ก่อนหน้าเคยได้แชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และรองแชมป์รุ่นทั่วไป ซึ่งก็พอใจที่เล่นได้ตามมาตรฐาน ตามเกมของตัวเอง แต่ก็ต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ รายการนี้แม้จะเป็นเต็งหนึ่ง แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันในรอบที่ผ่านๆ มา
“การแข่งขันรายการนี้ถือว่ามีส่วนหลายอย่างในการพัฒนานักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย เพราะว่าเปิดการโอกาสให้ทุกคนทั่วประเทศที่เล่นปิงปองได้เข้ามาร่วมการแข่งขัน และนักกีฬาได้ออกมาแสดงศักยภาพว่าเรามีการพัฒนาถึงตรงไหนบ้าง เพราะถ้าไม่มีจัดแข่งเลย นักกีฬาก็ไม่ได้มาแข่งกัน และไม่รู้ว่าแต่ละพัฒนาถึงไหนกันแล้ว” ภัทรธร กล่าว
ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “ปิงปอง” ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล เยาวชนทีมชาติจากสโมสรกีฬาเซ็นทรัล ซึ่งเล่นลีกอาชีพในประเทศออสเตรียกับสโมสรลินซ์ ใช้ความสดบดความเก๋า ไล่โค่นเอาชนะรุ่นพี่ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ นักตบลูกเด้งสาวจอมเก๋าวัย 41 ปี อดีตทีมชาติไทยที่เคยผ่านโอลิมปิกเกมส์ 5 สมัยจากสโมสรธารสุวรรณ ได้เป็นครั้งแรกด้วยสกอร์ 3-2 เกม 5-11, 11-7, 9-11, 11-4, 11-8 ทำให้ ปัณฑิตา คว้าแชมป์ไปได้อย่างเซอร์ไพรส์
หลังการแข่งขัน ปัณฑิตา กล่าวว่า การที่มีโอกาสได้ไปเล่นลีกอาชีพที่ออสเตรียช่วยให้พัฒนาการเล่นของตัวเอง เหมือนเราได้ออกไปเปิดโลก เพราะเทคนิคนักกีฬาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน และมีส่วนที่ช่วยให้เอาชนะพี่แป๋วได้เป็นครั้งแรก ซึ่งในครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการตีลูกต่อเนื่องของเราทำได้ดีขึ้น และไม่ตีเสียง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แชมป์นี้เป็นครั้งแรกที่ได้แชมป์รุ่นทั่วไปในรายการนี้จากการเข้าร่วมชิงชัย 4 ครั้ง ซึ่งก็รู้สึกดีใจมาก
ด้านคู่ที่น่าสนใจในเทเบิลเทนนิส ประเภทรุกกี้ ชายเดี่ยว “ยีนส์” ชัยชนะ ยวงเกตุ นักตบลูกเด้งจากสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ชนะ ศิวรานนท์ นพคุณ จากสโมสรบดินทรเดชาฯ สมุทรปราการ 3-1 เกม 9-11, 11-8, 11-9, 11-4 ทำให้ ศิวรานนท์ คว้าแชมป์รุกกี้ไปครอง
ชัยชนะ กล่าวว่า เข้าร่วมรายการนี้ครั้งแรก และคว้าแชมป์ได้ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะได้ซ้อมหนัก 2 เดือนก่อนมาแข่ง และเกินคาดมาก สำหรับรายการนี้ถือเป็นรายการที่ดีที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาได้มีเวทีแข่งขัน และนักกีฬาหลายคนก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแข่งขันเพื่อคว้าถ้วยพระราชทาน
นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี กล่าวปิดการแข่งขันว่า การแข่งขันตลอด 4 วันที่ผ่านมา ทำให้ตระหนักได้ว่า ความสำคัญที่สุดของการแข่งขันคือการมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน เพราะการมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันนั้น จะทำให้นักกีฬาได้ประสบการณ์ ซึ่งนำไปพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต ขอให้นักกีฬาทุกคนภูมิใจแม้ว่าในการแข่งขันครั้งนี้จะแพ้หรือชนะก็ตาม ขอให้นำความรู้สึกเหล่านี้เป็นแรงผลักดันจิตใจ เพื่อให้ก้าวเติบโตต่อไปในอนาคต และในโอกาสนี้ต้องขอบคุณผู้สนับสนุน และผู้ร่วมจัดการแข่งขันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอแสดงความชื่นชมต่อนักกีฬา อีกทั้งกองเชียร์ที่ได้สละเวลา แรงกายแรงใจ ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
สรุปนักกีฬาที่คว้าแชมป์การแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสและแบดมินตัน “BBG Princess Cup 2022” ดังนี้
– เทเบิลเทนนิส
ประเภทชายเดี่ยวทั่วไป ภัทรธร ภัสระ (สโมสรราชนาวี)
ประเภทหญิงเดี่ยวทั่วไป ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ณภัทร ธรรมาธิคม (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ภูเบศ อาภาสัตย์ (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ (สโมสรธารสุวรรณ)
ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 15 ปี ไล ยอง ฮาน (สโมสรพิน ปิงปอง แบร์ริ่ง 30)
ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 15 ปี ภัตศราภรณ์ วงละคร (สโมสรธารสุวรรณ)
ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี นิมิตร สร้อยพวง (มหาวิทยาลัยธนบุรี)
ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี กุลภัสสร์ วิจิตรวิริยะกุล (สโสรกีฬาเซ็นทรัล)
ประเภทรุกกี้ชาย ชัยชนะ ยวงเกตุ (การท่าเรือแห่งประเทศไทย)
ประเภทรุกกี้หญิง มัลลิกา หงษ์ทอง (ไอทีซี โกลบอล)
แบดมินตัน
ประเภทชายเดี่ยวทั่วไป สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล (พรหมลิขิต แบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวทั่วไป ณัฐณิชา จตุพนาพร (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทชายคู่ทั่วไป พงศกร ทองคำ และธนวินท์ มาดี (พรหมลิขิต แบดมินตัน/เอ็นพี คอร์ต)
ประเภทหญิงคู่ทั่วไป ลักษิกา กัลละหะ และผไทมาส เหมือนวงศ์ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทคู่ผสมทั่วไป วิชญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์ และนัทธมน ไล้สวน (บ้านทองหยอด)
ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ณชกร ภู่ศรี (พลสนะแบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ธมนวรรณ นิธิอิทธิไกร (ทริปเปิ้ลวี)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 19 ปี ธิติสรณ์ กาญจนาวิบูลย์ และปุณณภพ เกียรติกังวาฬไกล (บอยส์ คลับ)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 19 ปี ปริณดา พัฒนวริทธิพันธ์ และนภา สามารถ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 19 ปี ธนากร มีชัย และทุ้งฟ้า กอปรธรรมกิจ (สมาคมกีฬากรุงเก่า/เจพี อคาเดมี)
ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ธีรานันท์ พสิษฐ์ฐิติพันธิ์ (ศิริภูล)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ต้นรัก แซ่เฮ้ง (เกตุแก้ว)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 17 ปี สิทธิศักดิ์ นาดี และณัฐพงศ์ วิริยะกิจ (แกรนูลาร์)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 17 หทัยทิพย์ มิจาด และฮัซวานีย์ โมมินทร์ (เกตุแก้ว)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 17 ปี พุฒิเมธ เสมกันทา และณภชนก อุตสานนท์ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี/วินแม็กซ์ แบดมินตัน คลับ)
ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี วรดร สกุลปักษ์ (ซีอาร์ แบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี ศาริสา จันทร์แพง (เทศบาลเมืองท่าข้าม)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 13 ปี ธนภัทร เกิดศรีพันธุ์ และศุภวิชญ์ เพชรวารินทร์ (แกรนูลาร์/เทศบาลเมืองท่าข้าม)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 13 ปี จันทรัสม์ มารดากุล และแพรพลอย สุทธิวรยานนท์(ยูนิตี้แอนด์รวิน/เทศบาลเมืองชลบุรี)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 13 ปี วรดร สกุลปักษ์ และณธิดา บุระมาศ (ซีอาร์ แบดมินตัน/สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทรุกกี้ คู่ทั่วไป นิลพันธ์ ศรีคล้าย และศิริพงษ์ เหล่านุกูล (ออนลี่แบด)