สุดารัตน์ ปลื้ม มอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญ คนที่ 3.2 ล้าน ระบุช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เก็บภาษีได้มากกว่านโยบายแจกเงิน เพื่อหวังคะแนนนิยมแบบพรรคอื่น
วันที่ 15 เม.ย.2566 ที่ชุมชนบูรพา 7 เขตดอนเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยนายการุณ โหสกุล ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตดอนเมือง หมายเลข 2 พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ เพื่อมอบบัตรสมาชิกเครือข่ายบำนาญประชาชน คนที่ 3.2 ล้าน ให้กับนางพิราภรณ์ ซองศิริ อยู่ชุมชนบูรพา 16 เขตดอนเมือง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า โครงการบำนาญประชาชนของพรรค มีเป้าหมายแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยและเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ที่จะเพิ่มจีดีพี ได้อย่างยั่งยืน การกระจายเงิน 3,000 บาท ลงสู่ชุมชนโดยตรง สร้างกำลังซื้อใหม่ทุกเดือนให้กับทุกชุมชน เป็นเงิน 360,000 ล้านบาทต่อปี จะเป็นพลังสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ลดความเหลื่อมล้ำอย่างถาวร แถมลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ ได้ปีละกว่าแสนล้านบาท และผู้สูงอายุที่ร่างกายแข็งแรงจะกลับมาทำงานสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัว รวมทั้งจะสร้างรายได้จากภาษีให้ประเทศได้มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง
กฎหมายบำนาญประชาชน พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอเข้าสภาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เมื่อพี่น้องเลือกพรรคไทยสร้างไทยให้ชนะถล่มทลายทุกเขต รัฐบาลไทยสร้างไทย จะเข้าไปยกมือผ่านกฎหมายได้ทันที
เงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท ให้ผู้สูงอายุ ทั้งประเทศจำนวน 10-11 ล้านคน เป็นเงินปีละ 360,000 ล้านบาท จะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น ในเวลา 5 ปี สูงถึง 1,800,000-2,520,000 ล้านบาท คือ จีดีพีจะเพิ่มขึ้นถึง 5 ถึง 7 เท่า ในเวลา 5 ปี
ที่สำคัญจะเป็นการเพิ่มจีดีพีอย่างยั่งยืน เพราะเป็นการจ่ายบำนาญประชาชน ให้กับประชาชนผู้สูงอายุทุกเดือนไปตลอดชีวิต จะสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว เพื่อสร้างเศรษฐกิจทั้งประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน และลดความเหลื่อมล้ำอย่างถาวร และไม่ได้เป็นการให้เงินแบบสูญเปล่า เพราะผู้รับบำนาญประชาชน ต้องมีหน้าที่สร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงยืดเวลาการเจ็บป่วยจากอายุ 60-70 ปี เป็น 80-90 ค่อยป่วย
ดังนั้น จึงลดรายจ่ายในการรักษาพยาบาล ของประชาชน และประเทศชาติปีละกว่าแสนล้าน และประเทศจะได้รายได้จากภาษีเพิ่ม ประมาณ 15% ของจีดีพี หรือประมาณ 270,000-378,000 ล้านบาท ในเวลา 5 ปี โครงการบำนาญประชาชน จึงเป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ สุขภาพคุณภาพชีวิตเพื่อรองรับปัญหาสังคมผู้สูงวัย ให้ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถึงแม้พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคใหม่ ยังไม่ผ่านการเลือกตั้ง และยังไม่มีส.ส.ในสภา แต่พรรคจะมาสร้างชัยชนะให้ประชาชน จึงเสนอร่างกฎหมายบำนาญประชาชนเข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว เปรียบเสมือนนำรถไปจอดที่สภา รอเพียงคนขับคือส.ส. ของพรรคไทยสร้างไทย ที่จะเข้าไปขับเคลื่อนให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาได้สำเร็จภายใน 3 เดือน จึงขอให้พี่น้องช่วยเลือกส.ส. ซึ่งเขตดอนเมืองก็คือ นายการุณ และขอให้เลือก พรรคไทยสร้างไทย พรรค ส หมายเลข 32 ให้ชนะถล่มทลายเป็นรัฐบาล ทุกเขตเพื่อเข้าไปยกมือให้กฎหมายบำนาญประชาชนผ่านสภาให้เร็วที่สุด
ประชาชนก็จะได้รับเงินบำนาญ 3,000 บาทโอนเป็นเงินสดเข้าบัญชีทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต ผู้สูงอายุสามารถเบิกไปใช้ซื้อกินซื้ออยู่ในชุมชนได้สะดวก ดังนั้น โครงการบำนาญ ประชาชน จึงช่วยทำให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระลูกหลาน สร้างสุขภาพดี และยังเป็นโครงการที่จะฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน