วินาศสันตะโร! รถพ่วง 22 ล้อ เบรกแตก กลางสะพานข้ามแม่น้ำ ชนรวดเดียว 16 คัน ชาวบ้านเคราะห์ร้าย บาดเจ็บกว่า 17 ราย!
วันที่ 22 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้เกิดเหตุรถพ่วง 22 ล้อ เบรกแตกชนแหลก 16 คัน บาดเจ็บระนาวกว่า 17 ราย บนทางด่วนกาญจนา หลักกิโลเมตร 18+600 ขามุ่งหน้าบางนา ในที่เกิดเหตุทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเร่งเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ
ภาพจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งที่กำลังชะลอตัวต่อแถวอยู่บนทางด่วนกาญจนาภิเษก สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ ช่วงลงจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาลงมาไม่ไกล จังหวะที่รถกำลังใช้เส้นทางกันจำนวนมาก ปรากฏว่ามีรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ คันหนึ่ง ขับขี่ลงมาจากสะพานข้ามแม่น้ำด้วยความเร็วแล้วเบรกไม่อยู่ พุ่งชนท้ายรถที่ชะลอตัวกันกว่า 16 คัน
- ชาวบ้านผวา! แจ้ง จนท. พบ ชายนุ่งจีวรคล้ายพระ ถือดาบ คลั่งกลางกรุง!?
- เจ้าของร้อนใจ! แมวเกรดประกวด หายพร้อมรถ วอนโซเชียล ช่วยตามหา
- แม่ใจสลาย! ลูกสาววัย 14 หายออกจากบ้าน นาน 5 วัน วอน ขอลูกคืน
ศูนย์สั่งการในระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดสมุทรปราการ หรือ ศูนย์กู้ชีพปราการ ต้องประสานไปยัง ศูนย์วิทยุพระนคร ส่งรถพยาบาลและกำลังอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย พร้อมทั้งประสานโรงพยาบาลใกล้เคียงให้รองรับ โดยจากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 17 ราย หนึ่งในนั้นคือคนขับรถบรรทุกคันก่อเหตุ ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลาง ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทั้งหมด
จากการสอบถาม นายประเสริฐ อายุ 51 ปี หนึ่งในคนขับรถที่ถูกชน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับขึ้นสะพานมาถึงตรงนี้รถมันไม่ติดเลย พอมาถึงจุดเกิดเหตุรถค่อย ๆ ขยับ ตนจึงขยับตามมาปกติ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเบรกมาจากด้านหลังและมีรถไถลมา พอหันไปดูรถข้าง ๆ ก็เห็นว่าพลิกคว่ำ ส่วนรถของตนโดนท้ายกับรถอีกคัน ทำให้รถมันไหลชนต่อกันไปเรื่อยตนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้ ยิ่งพอเห็นรถด้านขวายิ่งทำให้ตื่นตกใจ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ คงต้องรอเจ้าหน้าที่เขาสรุปอีกที
ด้านเจ้าของรถอีกคันซึ่งถูกเฉี่ยวชนก่อนถึงที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนจอดรถอยู่บนสะพานเนื่องจากรถติด ก่อนจะหันไปมองกระจกข้าง ก็เห็นรถเทรลเลอร์เบียดปาดซ้ายรถตนมา ตนก็เลยจอดรถแล้วให้เพื่อนวิ่งตามรถเทรลเลอร์มา ตนก็มาเห็นว่าเขามาชนรถข้างหน้าอีกเป็น 10 คัน อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้เข้าสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งหมดอีกครั้ง โดยเฉพาะคนขับรถคันก่อเหตุ ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
