สุดช็อกหลังไฟมอด เจอศพพ่อเฒ่านิรนาม ถูกคลอกดับในพงหญ้าริมถนน ตำรวจเร่งตามหาญาติ คาดโรคประจำตัวกำเริบ ก่อนวูบขณะสูบบุหรี่

วันที่ 28 เม.ย.66 ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นาข่า จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้หญ้า ริมถนนบ้านไก่เถื่อน-หมูม่น ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี มีชายสูงอายุถูกไฟคลอกเสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุมชนตำบลหมูม่น แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุพบศพชาย อายุประมาณ 70 ปี ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่ในร่องริมถนน สวมเสื้อคลุมแขนยาวลายพรางสีเขียว กางเกงวอร์มขายาวสีดำ บริเวณหน้าอกมีรอยสักรูปหนุมาน ถูกไฟไหม้ตามร่างกาย โดยไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด ข้างกันพบรองเท้าแตะสีน้ำเงินของผู้ตายถูกไฟไหม้บางส่วน นอกจากนี้ยังพบซองบุหรี่ยาเส้น และไฟแช็กถูกไฟไหม้เช่นกัน

ขณะที่ นายหนึ่งสยาม เพ็ญจะมุข อายุ 33 ปี จนท.ปภ.ทม.หนองสำโรง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 02.15 น.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าไฟไหม้สายไฟฟ้า จึงนำรถดับเพลิงออกไปออกระงับเหตุ พบไฟกำลังลุกไหม้หญ้าแห้ง และต้นไม้อยู่ในรั้วหน้าบ้านของชาวบ้าน เมื่อดับไฟสนิทก็พบศพดังกล่าว ในสภาพนอนหงายชันหัวเข่า ก่อนประสานตำรวจมาตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบเงินสด 190 บาทในกระเป๋าเสื้อผู้ตายด้วย

“เมื่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาตรวจสอบสายไฟฟ้าบนเสา ไม่พบร่องรอยการชอร์ต หรือทำให้เกิดเพลิงไหม้แต่อย่างใด แต่ต้นเพลิงเกิดจากด้านล่างเสาไฟฟ้า ที่ต่างลงความเห็นว่าผู้ตายน่าจะวูบหมดสติจากโรคประจำตัวกำเริบ เพราะผู้ตายอายุมากในขณะกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างทาง และทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามหญ้าแห้งและต้นไม้ นอกจากนี้ยังไม่เคยเห็นผู้ตายในพื้นที่มาก่อน” นายหนึ่งสยาม กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า เสียชีวิตจากอาการวูบหมดสติจากโรคประจำตัวขณะสูบบุหรี่อยู่ เพราะผู้ตายมีอายุมาก และทำให้บุหรี่ที่สูบอยู่นั้นตกลงไปไหม้หญ้าแห้งที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ผู้ตายสำลักควันไฟและถูกคลอกเสียชีวิต โดยไม่มีใครพบเห็นหรือช่วยไว้ได้ทัน ตรวจสอบในตัวไม่พบหลักฐานยืนยันว่าเป็นผู้ใด จึงส่งศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับไปบำเพ็ญกุศล

ขณะที่ตำรวจและแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี ฝากประชาสัมพันธ์ว่า หากมีญาติใครสูญหาย และเชื่อว่าเป็นญาติของตัวเอง ตามตำนิรูปพรรณของศพ ให้มาติดต่อรับศพได้ที่แผนกนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี และ สภ.นาข่า จ.อุดรธานี เพราะในตัวผู้ตายไม่พบหลักฐานยืนยันตัวตน