ท้องทะเลสีคราม หายทรายขาวละเอียด ทิวทัศน์อันเขียวขจี และมรดกทางวัฒนธรรมอันหลากหลายในแต่ละจังหวัด… ทำให้ “ภาคใต้” ของประเทศไทยเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกให้เข้ามาเยี่ยมเยียนมากขึ้นในทุก ๆ ปี และเมื่อไม่นานมานี้ “สิชล” เมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดของภาคใต้ไทย และกำลังได้รับการกล่าวขานถึงในฐานะ “สวรรค์แห่งการท่องเที่ยวอันเงียบสงบ”
“สิชล” หนึ่งในอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เงียบสงบมาอย่างยาวนาน อยู่ห่างจากสนามบินสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เพียง 40 นาที โอมล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อากาศอันบริสุทธ์ รอยยิ้มของผู้คน และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชุมชนที่ขับเคลื่อนไปตามจังหวะอันนุ่มนวลของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นศรัทธาของชาวพุทธในวัดโบราณ ชาวประมงดึงปลาที่จับได้ขึ้นมาจากน้ำทะเลสีเขียวมรกต ชาวนาสอยมะพร้าวจากต้นปาล์มที่สูงตระหง่าน หรือช่างฝีมือที่กำลังทอผ้าย้อมสีธรรมชาติที่ได้จากผลไม้ในท้องถิ่นอย่างประณีต
ด้านหน้าของสิชลติดกับทะเลอ่าวไทยสีครามและชายฝั่ง “หาดสิชล” ซึ่งได้รับการยอมรับจาก Lonely Planet ไกด์นำเที่ยวชื่อดังระดับโลกให้เป็น 1 ใน 10 ชายหาดที่ดีที่สุดในประเทศไทย ส่วนด้านหลังของสิชลคือ “แนวเขาหลวง” มรดกทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย ผืนป่าที่เป็นต้นน้ำและยอดเขาที่สูงที่สุดของภาคใต้ มีน้ำตกที่สวยแบบอันซีนซ่อนตัวอยู่ พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความสวยงามอันน่าทึ่ง
ราวี ชานดราน (Mr. Ravi Chandran) อดีตซีอีโอของลากูน่าภูเก็ต (ส่วนหนึ่งของบันยันทรีโฮลดิ้งส์) ผู้นำที่มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงย่านเหมืองแร่ดีบุกในภูเก็ตให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางรีสอร์ตแบบครบวงจรชั้นนำของเอเชียในปัจจุบัน ในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสของ “Urasaya” (อุรัสยา) โครงการที่อยู่อาศัยแห่งใหม่บนหาดสิชล ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและได้แรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ซึ่งจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ กล่าวถึง “สิชล” ว่า “สิชลเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ เหมือนย้อนไปสู่ 30 ปีที่แล้วของภาคใต้ ทุกอย่างยังคงอยู่อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามตามธรรมชาติ วัฒนธรรมที่แท้จริง และความเงียบสงบอย่างสมบูรณ์แบบ และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องการมาสัมผัส ซึ่งเป็นโอกาสของการเริ่มต้นใหม่สำหรับการท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยในสิชล ด้วยการเปิดรับอนาคตที่กำหนดโดยมรดก ธรรมชาติ และความยั่งยืน”
หัวใจของ “สิชล” คือธรรมชาติและความเงียบสงบ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างที่หวือหวา ไม่มีโรงแรมสูงตระหง่านริมทะเล ไม่มีเสียงกิจกรรมทางน้ำที่ใช้มอเตอร์หรือส่งเสียงดัง มีเพียงความงามและวิถีชีวิตที่สวยงาม ซึ่งเพียงเท่านี้ก็มีแรงดึงดูดมากพอให้นักเดินทางมาสำรวจตลาดริมชายหาดในท้องถิ่น เดินเล่นผ่านสวนมะพร้าว แหวกว่ายน้ำทะเลอ่าวไทยวิวเกาะสมุย ทักทายฝูงปลาโลมาสีชมพู
“ธรรมชาติและความยั่งยืนจะเป็นรากฐานของการพัฒนาในทุกด้านของสิชลในอนาคต แนวคิดนี้กลายเป็นมรดกของพื้นที่ต่าง ๆ ในนครศรีธรรมราชไปแล้ว รวมถึงคนในท้องถิ่นที่ฝึกฝนงานฝีมือที่มีความรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมานานหลายศตวรรษ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอสิชลให้มีเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับชาวหมู่บ้านคีรีวงที่ใช้วัสดุทอมือและย้อมสีออร์แกนิกโดยใช้ผลไม้ท้องถิ่นจากต้นไม้พื้นเมือง เช่น มังคุด หรือ การทอดแหของชาวประมงที่แม่น้ำปากพนัง เป็นต้น ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางที่แท้จริงและเป็นธรรมชาติที่สุดที่เคยเห็นในเอเชีย” ราวี ชานดรานกล่าวเสริม
นักท่องเที่ยวสามารถค้นพบมรดกอันล้ำอีกมากมายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในไทย และเป็นจุดหมายปลายทางประจำปีสำหรับผู้แสวงบุญชาวพุทธ ในขณะที่นักผจญภัยและผู้รักสัตว์ป่าสามารถค้นพบภูมิประเทศอันเขียวชอุ่มของ “อุทยานแห่งชาติเขาหลวง” ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศไทยด้วยความสูง 1,780 เมตร รวมถึงเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์และพืชพรรณไม้หลากหลายชนิด เปรียบเสมือนเป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ เช่น กล้วยไม้ 300 ชนิด นก 340 สายพันธุ์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สมเสร็จ เสือดาว และเม่น
เร็ว ๆ นี้ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราชจะมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ซึ่งคาดว่า จุดหมายปลายทางที่สวยงามอย่าง “สิชล” จะได้ปรากฏสู่เวทีโลกในฐานะสวรรค์แห่ง “การท่องเที่ยวอันเงียบสงบ” และพร้อมที่จะกลายเป็นอัญมณีเม็ดงามแห่งมงกุฎแห่งการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแท้จริง