สิงคโปร์ พบผู้ป่วยฝีดาษลิง ติดเชื้อภายในประเทศรายที่ 2 แจงไร้ความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายอื่น ๆ เตรียมเฝ้าระวัง หวั่นเกิดระบาดใหญ่
ในขณะที่สิงคโปร์ต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 อีก ประเทศก็กำลังประสบกับการแพร่ระบาดของโรคอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือ โรคฝีดาษลิง (Monkeypox ) เกิดจากเชื้อไวรัสที่พบได้ยาก โดยมีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อ 5 รายที่เชื่อมโยงกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง ซึ่งประกอบด้วยผู้ป่วยจากต่างประเทศ 3 รายและผู้ป่วยในท้องถิ่น 2 ราย
ตามรายงาน เมื่อ 13 ก.ค. กระทรวงสาธารณสุขของประเทศสิงคโปร์ (MOH) ยืนยันกรณีผู้ป่วยโรคฝีดาษในประเทศรายที่ 2 จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ป่วยชายสัญชาติอังกฤษวัย 48 ปี อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ ตรวจพบฝีดาษลิงเป็นบวก พร้อมมีอาการคงที่ และขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติ (NCID) นับเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 5 ของประเทศ
ที่น่าสนใจ คือกระทรวงสาธารณสุข MOH เปิดเผยว่าชายผู้นี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับกรณีโรคฝีดาษลิงก่อนหน้านี้ โดยชายรายนี้มีอาการครั้งแรก 6 ก.ค.ในรูปแบบของผื่น ซึ่งเป็นบริเวณรอบทวารหนัก 5 วันต่อมา เขาเริ่มมีไข้ จากนั้นเข้ารับการรักษาพยาบาลใน NCID ทันที ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับกรณีผู้ป่วยฝีดาษลิงที่รายงานก่อนหน้านี้
กรณีผู้ป่วยในท้องถิ่นก่อนหน้านี้เป็นชายชาวมาเลเซียอายุ 45 ปี อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ ซึ่งเกิดแผลที่ผิวหนังบริเวณช่องท้องส่วนล่าง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ต่อมาเขามีอาการเมื่อยล้าและต่อมน้ำเหลืองบวม ก่อนที่จะมีอาการเจ็บคอและมีไข้ ผู้ติดต่อที่ใกล้ชิดทั้งหมดของผู้ป่วยถูกกักกันเป็นเวลา 21 วัน แต่ไม่เกิดการแพร่เชื้อแต่อย่างใด
ตามข้อมูล ล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเมื่อวันอังคารว่า มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษจำนวน 9,200 รายใน 63 ประเทศ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ณ ตอนนี้ โรคฝีฝีดาษยังไม่จัดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมักมีอาการ เช่น มีไข้ มีผื่นขึ้นเป็นวงกว้าง และต่อมน้ำเหลืองบวม อัตราการเสียชีวิตในปัจจุบันอยู่ที่ 3% ถึง 6%
ขอบคุณที่มาจาก Straitstimes Mustsharenews