สาวปวดท้องนาน 8 วัน หาหมออึ้งเจอพยาธิตัวเบิ้ม 3.5 ซม. กัดกินตับไป 1 ใน 3 ส่วน แถมทำลายท่อน้ำดี แพทย์เตือนระวังการทานอาหารไม่สุก
หญิงสาวรายหนึ่งจากฉวนโจว เมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน เกิดอาการกบวม คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และปวดท้องส่วนบนของเธอโดยไม่ทราบสาเหตุนานถึง 8 วัน ทำให้เธอทนไม่ไหวรีบไปพบแพทย์ที่แผนกระบบทางเดินอาหารของโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ทำการวินัจฉัยผ่านการส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)
จนกระทั่งเจอสาเหตุชวนอึ้งของการปวดท้อง โดยแพทย์พบท่อน้ำดีมีการขยายตัวผิดปกติและ
หนึ่งในสามของตับของผู้หญิงถูกปรสิตกินเข้าไปและท่อน้ำดีภายในและภายนอกตับก็ได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน โดยพยาธินี้มีรูปร่างคล้ายปลาและมีขนาดประมาณ 3.5 X 2.0 ซม.
เหอ เหว่ย รองหัวหน้าศัลยแพทย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ตับ ตับอ่อนและทางเดินน้ำดี (Department of Hepatobiliary and Pancreatic Surgery) การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับฟาสซิโอลา (Fascioliasis) เป็นโรคปรสิตที่ค่อนข้างหายาก
โดยส่วนใหญ่เกิดจากผู้ป่วยทานผักหรือหรือน้ำบางชนิดอย่างดิบ ๆ ที่ปราศจากการทำความสะอาดหรือปรุงรสหรือดื่มน้ำที่มีตัวอ่อน ระยะเมตาเซอร์คาเรีย (metacercaria) เข้าไปในลำไส้ ซึ่งสิ่งที่พบในตับของผู้ป่วยคือ พยาธิ Fasciola hepatica ที่มีลักษณะคล้ายใบไม้ ตามรายงานของ Beijing Youth Daily ปรสิตในร่างกายของผู้ป่วยมีขนาดใหญ่กว่าเคสประเทศอื่น ๆ
แพทย์กล่าวว่าตัวอ่อนของพยาธิ Fasciola hepatica เคลื่อนตัวผ่านลำไส้เล็กเข้าสู่ช่องท้องและในที่สุดก็เคลื่อนตัวถึงส่วนตับ พร้อมดูดซับสารอาหารจำนวนมากจากโฮสต์และในขณะเดียวกันก็ขับสารพิษ ทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก
เมื่อโตเต็มวัยจะปิดกั้นหลอดเลือดหรือท่อน้ำดีในตับ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ดังนั้น ขอแนะนำให้ประชาชนใส่ใจกับสุขอนามัยของอาหารและระมัดระวังในการรับประทานอาหารดิบและไม่สะอาด ไม่ว่าจะเนื้อสัตว์หรือผัก
ขอบคุณที่มาจาก Ettoday Yahoo