สองผัวเมียร้องทนายตั้มเหตุคดีไม่คืบ หลังโดน “ชายสี่” อ้างเป็นตำรวจ ส่องไฟใส่รถ ที่มีลูกเล็กอยู่ในรถด้วย ก่อนยิงปืนขู่ทำเหยื่อผวาซิ่งรถหนี
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 10 มิ.ย.ที่สำนักงานกฎหมาย sittra law firm ตึกเอ็มไพร์ ถ.สาทรใต้ นายธนยศ ทองมี อายุ 33 ปี และ น.ส.วาเศรษฐี ส่งเสียง สองสามีภรรยาผู้เสียหาย ร้องทุกข์กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลังสองผู้เสียหายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ยิงปืนข่มขู่ ในพื้นที่ อ.ปราณบุรี ก่อนไปแจ้งความไว้แต่ไม่มีความคืบหน้าทางคดี
น.ส.วาเศรษฐี กล่าวว่า ช่วงดึกวันที่ 29 พ.ค.สามีและตนขับรถตู้กลับมา จาก อ.บางสะพาน หลังไปขายมันสำปะหลัง จนถึงหน้าวัดหนองข้าวเหนียว อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วมีชาย 4 คน สวมกางเกงยีนส์ ใส่เสื้อกั๊ก ลงจากรถเก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อและไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถที่ขับนำหน้าตัวเองมาสักพัก ก่อนจะเอาไฟฉายส่องมาที่รถพวกตนและเรียกให้จอด ซึ่งบริเวณนั้นเป็นที่มืด ตนเกรงจะเป็นมิจฉาชีพจึงขับรถหนี กลุ่มชายดังกล่าวจึงขับรถไล่ตาม ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด ทั้งที่มีลูกเล็กอยู่ในรถด้วย
น.ส.วาเศรษฐี กล่าวอีกว่า จากนั้นจึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจที่ป้อมในพื้นที่ อ.ปราณบุรี แต่ไม่มีใครออกมา ก่อนที่ชาย 2 คน จะลงจากรถมาพร้อมวัตถุคล้ายปืน จ่อมาที่สามีและตนซึ่งนั่งอยู่บนรถตู้ พร้อมอ้างตัวเป็นตำรวจ ถามพวกตนว่า “มึงหนีทำไม” ก่อนเดินอ้อมรถไปหาสามี แต่สามีบอกว่าถ้าเป็นตำรวจทำไมทำแบบนี้ พร้อมขอให้กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถตามไปที่ปั๊มน้ำมันนาห้วย
แต่กลุ่มชายปฏิเสธ ผู้เสียหายจึงสบโอกาสขับรถหนีไปที่ปั๊มดังกล่าวโดยเฉี่ยวชนรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.ปราณบุรี หลังไปถึงปั๊มน้ำมัน แต่จนตอนนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า และทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจเป็นตำรวจ สภ.สามร้อยยอด เพราะมีนักการเมืองท้องถิ่นติดต่อให้กลุ่มคนนี้เข้ามาขอโทษพวกตน
โดยมีผู้ชายเข้ามาพบเพียงคนเดียวและอ้างว่าเป็นอาสาสมัครตำรวจ สาเหตุที่ทำไปเพราะคิดว่าพวกตนเป็นคนต่างด้าว พร้อมถามว่าพวกตนจะช่วยเขาได้อย่างไรให้ไม่ต้องออกราชการ ทั้งนี้ ก็ยังมีความกังวลเพราะต้องใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ อีกทั้งยังได้ยินว่ามีชาวบ้านคนอื่นๆ ที่เคยถูกกระทำลักษณะนี้ และลูกตนก็ผวาเวลาได้ยินเสียงแตรรถ
นายษิทรา กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และยิงปืนในที่สาธารณะ ข่มขืนใจให้กระทำการใดๆ และอาจเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ถือเกินกว่าเหตุ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้วแต่คดียังไม่คืบหน้า จากนี้ทีมงานจะร้องเรียนไปยัง ผบช.ภ.7 เพื่อให้เร่งรัดตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะปกติ การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่มีระเบียบกฎเกณฑ์อยู่แล้ว