พบศพหญิงชายดับปริศนาคาคอนโด ผู้ดูแลเล่านาทีช็อก เปิดห้องเจอศพ กล้องวงจรปิดเผยภาพสุดท้ายก่อนตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุหญิงเสียชีวิตบนเตียงนอน 1 ราย และชายผูกคอเสียชีวิตในห้องน้ำ 1 ราย ภายในห้อง 311 ชั้น 3 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 3 ห้อง 311 พบศพหญิงนอนเสียชีวิตบนที่นอน ทราบชื่อคือ น.ส.นิพาพร อายุ 28 ปี สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาโดยประมาณ 1-2 วัน
ส่วนในห้องน้ำพบศพชาย เบื้องต้นไม่ทราบชื่อ-นามสกุล สภาพศพเสียชีวิตด้วยท่ายืน ผูกคอด้วยเชือก คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 1 วัน ในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบเหตุ ชายแปลกหน้าหรือคนร้ายเข้าออกในห้อง
พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่าผู้หญิงเสียชีวิตก่อน ส่วนผู้ชายเสียชีวิตที่หลังในลักษณะผูกคอตนเอง ตอนนี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูการเข้าออก
จากการตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด เบื้องต้น พบแค่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนที่เดินเข้าออก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น
ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้หญิงต้องรอแพทย์จากนิติเวชชันสูตรพลิกศพก่อน และมาประกอบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตอีกครั้ง
จากการสอบถาม นายณพชร คนดูแลคอนโดมิเนียม เล่าว่า ตนได้มาเคาะห้อง ผู้เช่าเพื่อที่จะเก็บค่าเช่าห้องพัก แต่ผู้เช่าไม่ตอบรับ จากนั้นตนได้เปิดประตูเข้าไปในห้องพัก พบผู้เช่าเป็นหญิงนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพนอนหงายห่มด้วยผ้าห่ม
จากนั้นตนได้เปิดห้องน้ำภายในห้องพัก และพบผู้ชายอีกหนึ่งคน ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องน้ำ สภาพยืนผูกคอด้วยเชือก จากนั้นตนจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามเพิ่มเติมแจ้งว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้เช่ารายวัน ได้มาเช่าห้องพัก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. เวลาประมาณ 09.30 น. เห็นผู้เช่าซึ่งเป็นชายออกมาจากห้องนอนลงมาทิ้งขยะ ซึ่งเป็นการพบเห็นครั้งสุดท้าย
ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างดูกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม แต่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือร่องรอยการเข้ามาของบุคคลอื่นๆ ในช่วงเกิดเหตุคาดว่าฝ่ายชายคงเป็นฝ่ายลงมือฆ่าฝ่ายหญิงก่อน แล้วเฝ้าศพอยู่ 1 คืน จึงผูกคอตายตาม ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐาน ว่าอาจจะมาจากความหึงหวง