สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ประกาศเห็นด้วยกับสมาคมธรรมศาสตร์ เลื่อนจัดงานฟุตบอลประเพณีฯ ออกไปก่อน เนื่องจากเหตุโควิดยังระบาด ยืนยันจะยังสืบสานให้มีการอัญเชิญพระเกี้ยวในครั้งต่อๆ ไป

หลังจากมีการเผยแพร่แถลงการณ์ของคณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ จนทำให้ในเวลาต่อมากลายเป็นประเด็นที่มีศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงประชาชนทั่วไปออกมาแสดงความเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

• นายกราชบัณฑิตฯ มองต่างมุม “พระเกี้ยว” คือ สัญลักษณ์ความเสมอภาค-เสรีภาพของคนไทย
• “ลูกศร ธนาภรณ์” นิสิตเก่าจุฬาฯ โพสต์ขอบคุณน้องๆ ช่วยกันปฏิรูปเพื่อสร้างความเท่าเทียม
• จุฬาฯ ยกเลิกกิจกรรม “อัญเชิญพระเกี้ยว” งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์

ล่าสุด วันนี้ (25 ต.ค.) สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยแพร่ประกาศ เรื่อง แนวทางการจัดงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมกันสืบสานงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ สืบเนื่องเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และหลอมรวมความสมัครสมานสามัคคีระหว่างนิสิตเก่า ศิษย์เก่า และนิสิต นักศึกษา ทั้งสองสถาบัน และร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับสังคมไทย โดยทั้งสองมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการจัดงานโดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปด้วยดี และได้เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ในฝ่ายเชียร์ พาเหรด และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ รู้จักการทำงานและการอยู่ร่วมกันในสังคม ทั้งยังได้ซึมซับขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของทั้งสองสถาบัน โดยสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และสมาคมธรรมศาสตร์ฯ เป็นผู้สนับสนุน

ในการจัดงานฟุตบอลประเพณีฯ ครั้งที่ 75 นี้ สมาคมธรรมศาสตร์ฯ ในฐานะเจ้าภาพได้มีหนังสือลงวันที่ 30 กันยายน 2564 แจ้งขอเลื่อนกำหนดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีฯ ออกไปก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ที่ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ ซึ่งสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ก็เห็นพ้องด้วยเพื่อร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม

ทั้งนี้ การจัดงานฟุตบอลประเพณีฯ ในครั้งต่อๆ ไป สมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ ยังคงสืบสานให้มีการอัญเชิญพระเกี้ยว อันเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบียมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ และความภาคภูมิใจในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของเหล่านิสิตเก่าและนิสิตปัจจุบันทั้งมวล