สมศักดิ์ เร่งตรวจสอบ ร้านนวดต่างด้าว เปิดบังหน้าค้ากาม ทำเสื่อมเสีย!

Home » สมศักดิ์ เร่งตรวจสอบ ร้านนวดต่างด้าว เปิดบังหน้าค้ากาม ทำเสื่อมเสีย!

ร้านนวด ค้ากาม

สมาคมจารวีฯ ร้อง “สมศักดิ์” ช่วยตรวจสอบ “หมอนวดต่างด้าวค้ากาม” แย่งอาชีพคนไทย ด้านสมศักดิ์ ลั่นอย่าใช้คำว่านวดบังหน้า

จากกรณีที่นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวี เพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย พร้อมด้วยเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบหมอนวดเถื่อนต่างชาติ ที่เข้ามาลักลอบประกอบอาชีพหมอนวด แย่งอาชีพคนไทย ปรับการขึ้นทะเบียนหมอนวดให้ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งเสริมการนวดเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย นั้น

นายสมศักดิ์ ระบุว่า ข้อเรียกร้องตรงกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการผลักดันให้การนวดไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ดังนั้น การขึ้นทะเบียน เห็นว่ายังมีความจำเป็นอยู่ และอยู่ระหว่างที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) จะมีการปรับปรุงการอัพสกิล รีสกิลหมอนวดไทยและการขึ้นทะเบียนความเชี่ยวชาญในการรักษาอาการ หรือเป็นหมอนวดเกรด A และมีการกำหนดกรอบอัตราค่านวดแผนไทย

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้กำชับให้ระวังไม่ให้มีการแอบแฝงการนวดไทยมาขายบริการทางเพศ ซึ่งจะทำให้การนวดไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่มีใครกล้าเข้าไปใช้บริการ อย่าไปคิดสั้นๆ การทำร้านนวดจะต้องไม่มีขายบริการทางเพศ ตรงนี้จะต้องให้ชัดเจนและมีการลงโทษ มีขายบริการเมื่อไหร่เจ๊งเมื่อนั้น

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยทุกฝ่ายรวมถึงภาคเอกชนให้ความร่วมมือ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลและให้ชัดเจนเพื่อแยกแยะเรื่องของการนวดที่มีมาตรฐานได้ ซึ่งตนอยากเห็นความชัดเจนใน 2 เดือน ก่อนปีงบประมาณใหม่ เพื่อไปดำเนินการต่อให้สอดคล้องกับการส่งเสริมพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (เมดิคัลฮับ)

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในส่วนของการขึ้นทะเบียนการนวดต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของ สบส. มีการอบรมแบ่งหลักสูตรออกเป็นหลายระดับ ทั้งนวดผ่อนคลาย กับการนวดรักษา ซึ่งจะมีการสอนหลายๆ ชั่วโมง เช่นหลักสูตร 330 ชั่วโมง 372 ชั่วโมง ซึ่งเป็นขั้นเทพ

ร้านนวด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงเรียนสอนนวด 412 แห่ง มีหมอนวดขึ้นทะเบียนประมาณ 2 แสนคน แต่กลับไม่มีข้อมูลว่า มีการทำงานจริงอยู่เท่าไหร่ สอบถามไปยังหน่วยงานเช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็จะเป็นตัวเลขประมาณการณ์เท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มหมอนวดเข้าในระบบสุขภาพปีละกว่า 4 หมื่นคน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า อยากให้ สมาคมจารวีฯ รวมถึงองค์กรที่ดูแลเรื่องการนวด ช่วยกันทำข้อมูลตรงนี้ รวมถึงการแยกร้านนวดสีขาว ร้านนวดสีเทา สีดำ ซึ่งปัจจุบันเราพบว่า ในบรรดาร้านนวดนั้นมี 1 ใน 4 หรือ 25% ที่เป็นร้านนวดสีขาว ส่วนที่เหลือ เป็นร้านนวดสีเทา สีดำ จะเห็นว่าร้านนวดสีขาวมีน้อยกว่า ถ้าเราไม่ช่วยกันจะทำให้นวดไทย นวดสีขาวเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย เรื่องนี้จะมีการนำเข้าคณะกรรมการเมดิคัลฮับ เพื่อทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา

ขณะที่ นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวี กล่าวว่า ในส่วนของร้านนวดที่แฝงบริการทางเพศนั้น แน่นอนว่าต้องมีการช่วยกันดูแลกวดขัน ส่วนหนึ่งที่เห็นชัดเจนและคิดว่าจะทำให้เกิดผลกระทบกับชื่อเสียงของนวดไทย ซึ่งตนได้เห็นเองกับตา และเชื่อว่ารมว.สาธารณสุขเองก็รู้ แค่ขับรถออกไปตามถนนก็จะเห็นว่า มีการติดป้ายประกาศนวดพริตตี้ สปาพริตตี้จำนวนมาก เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็มีเยอะ มีการเอาคำว่านวดมาเขียนนำหน้า หากมีกฎหมายข้อใดที่จะมาแก้ไขหรือบังคับใช้ในร้านเหล่านี้ ก็อยากให้มีการแก้ไขเพราะการใช้คำว่านวดนำหน้าตรงๆ เช่นนี้ แถวห้วยขวาง สุขุมวิท ทองหล่อเยอะมาก

“อยากให้ตัดออกไปเลย เพราะอย่างท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยเองก็ยังบอกข้อมูลว่า นวดสีขาวมีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น อีก 3 ส่วนเป็นนวดสีเทา สีดำ ผมเลยอยากเสนอว่าทำไมไม่เอาขึ้นมาอยู่บนดิน เพราะถ้ามีคำว่านวดมันก็ต้องไปขออนุญาตกับ สบส. ไม่อย่างนั้นก็ต้องตัดคำว่า นวดออกไปเลย ไม่มีคำว่านวดพริตตี้ สปาพริตตี้” นายพิทักษ์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ