หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง สกัดจับบิ๊กล็อต กัญชา 452 กิโล ยาบ้าอีก 1.7 แสนเม็ด ริมโขง
วันที่ 25 ม.ค.2565 ที่สถานีเรือบึงกาฬ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ร.ต.สมบัติจูถนอม ผบ.นรข. พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย นายนภดล จอมเพชรร ปลัดจังหวัดบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพิงนอภ.เมืองบึงกาฬ นายพีระพงศ์ ร้าพึงจิตต์ ผอ.ปป.10 ส้านักงาน ปปส. พ.อ.สุจิรชัย มหาธรรม รอง ผอ.รมน.จว.บึงกาฬ
พ.ต.อ.วิชชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.อ.ชินกร อัศวภูมิ ผกก.ตม.จว.บึงกาฬ น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หน.สน.เรือนครพนม นายสมบัติ ฆ้อนทอง รรก.นายด่านศุลกากรบึงกาฬ พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ โคตรศรีวงษ์ ผบ.ร้อย ตชด.244 พ.ต.ต.วิษณุ จินาวงษ์ สว.ตำรวจน้ำ
แถลงจับกุม นายเอกภพ เมืองณะศรี นายธนพงษ์ พ่อพิลา และ นาย ณัฐพงศ์ เสียสีหา ของกลางยาบ้า 6 กระสอบ จำนวน 170,000 เม็ด รถจยย.3 คัน อีกรายยึดรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ทะเบียน กจ 2555 สุโขทัย บรรทุกกัญชาแห้งอัดแท่ง 452 กิโลกรัม
ทั้งนี้จากการสืบทราบของ พล.ร.ต.สมบัติ ว่าจะมีกาขนยาเสพติด ข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก 2 จุดที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านท่าดอกคำ ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หน.สน.เรือนครพนม น.ต.ฐิติวัฒน์ สุขสวัสดิ ร.อ.วิสิษฏ์ศักดิ์สินประเสริฐ หน.หมวดทำลายใต้น้ำจู่โจม และ รอง.หน.ชปพ.ศป.ปส.นรข.
นำกำลังประสานกับ พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ ประเสริฐทรง สว.สส.สภ.เหล่าหลวง ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผบ.ทพ.2107 ร.ต.ฉัตรชัย ชาญเขว้า ผบ.หมวดสกัดกั้นที่ 1 รองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอบึงโขงหลง วางแผนจับกุมขณะซุ่มอยู่ริมโขงได้ยินเครื่องยนต์เรือวิ่งข้ามน้ำโขงเข้ามาจอดริมตลิ่ง และเห็นชาย 3 คนขี่รถ จยย.มาด้วยกัน 3 คัน
จากนั้นทั้ง 3 คนเดินลงไปริมน้ำโขงสะพายเอากระสอบสีดำคนละ 2 กระสอบขึ้นหลัง จนท.จึงแสดงตัวเข้าจับกุมในกระสอบพบเป็นยาบ้าจำนวน 170,000 เม็ด และในแต่ละกล่องที่บรรจุยาบ้าเขียนชื่อเป้าหมายปลายทางที่จะนำส่งไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาลาว เช่นอำเภอเมืองบึงกาฬ ศรีวิไล บ้านหนองฮู บ้านโนนหนามแท่ง เป็นต้น
โดยทั้ง 3 คนรับว่าได้ค่าจ้างจากพ่อค้าชาวลาวเป็นเงิน 20,000 บาท มารับยาบ้าล็อตหนี้ไปส่งตามเป้าหมายที่เขียนระบุชื่อสถานที่เอาไว้ จึงถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมายาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นำผู้ต้องหา 3 คนพร้อมของกลางยาบ้าและรถ จยย.3 คันส่ง พงส.สภ.เหล่าหลวงดำเนินคดี
จุดที่ 2 น.ท.การันต์ มินวงษ์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.อุดม บัวสุข ร.ท.ไชยา เนียมแสง ผู้ควบคุมเรือลาดตระเวนตรวจการ ได้รับคำสั่งให้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่จะลำเลียงกัญชาข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมาใงให้กับผู้ค้าชาวไทย บริเวณพื้นที่ ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนจับกุม
พบรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน กจ 2555 สุโขทัย จอดหลบอยู่ใต้ต้นไม้ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 3007 ที่ทางแยกเข้าหินสามวาฬ ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ กระทั่งพบรถนิสสัน นาวาร่า สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดทะเบียน วิ่งเข้ามาจอดเทียบรถคันที่จอด หลังกระบะมีชาย 1 คนได้กระโดดลงจากรถ มุ่งตรงไปที่รถที่จอดต้องสงสัย จึงแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้น แต่ชายดังกล่าวได้กลับหลังวิ่งหลบหนีกระโดดขึ้นรถนิสสันคันมาส่งหลบหนีไปทาง อ.ศรีวิไล จนท.อีกชุดจึงไล่ติดตามไปแต่ไม่ทัน
เมื่อเข้าตรวจรถยนต์มิตซูบิชิที่จอดอยู่พบกระสอบห่อด้วยถุงพลาสติดสีดำ 11 กระสอบ เปิดดูด้านในพบเป็นกัญชาแห่งอัดแท่งห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทองติดโลโก้ตราเสือมีดาวห้าแฉก 3 ดวงด้านล่าง 323 แท่ง และอีกห่อจำนวนหนึ่งเป็นห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีเงิน จำนวน 129 แท่ง นับรวมกันได้ 452 แท่งน้ำหนัก 452 กิโลกรัม จึงยึดไว้เป็นของกลางนำส่ง สภ.เมืองบึงกาฬ
พล.ร.ต.สมบัติจูถนอม ผบ.นรข.กล่าวถึงเคสคดีกัญชาว่า ทาง ปปส.ได้ตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องประมาณ 4-5 คันที่มาดูลาดเลาและคอยเป็นผู้ตรวจการณ์นำทางว่ามี จนท.ตั้งจุดตรวจที่ใดบ้าง โดยได้ติดตามกลุ่มรถยนต์และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปถึงโกดังในกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน และตรวจค้นพบกัญชาอีกจำนวนมากพร้อมกับรถยนต์อีก 3 คัน ผู้ต้องหา 7 คน
จึงจะได้แถลงในโอกาสต่อไป จากการจับกุมยาเสพติด 2 รายดรั้งนี้จึงเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ทางหน่วยเรือ นรข.จับกุมจริงบูรณาการส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาทำงานร่วมกันจริง ซึ่งเป็นการลบคำครหาหรือสบประมาทของผู้ไม่หวังดีว่า นรข.จับเอาแต่ของส่วนคนกระทำผิดปล่อยไปสร้างผลงาน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด