‘สกลธี’ เผยอึดอัด เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อำนาจจำกัด ขอเป็นผู้ว่าฯ สั่งแก้ปัญหาเอง

Home » ‘สกลธี’ เผยอึดอัด เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อำนาจจำกัด ขอเป็นผู้ว่าฯ สั่งแก้ปัญหาเอง


‘สกลธี’ เผยอึดอัด เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อำนาจจำกัด ขอเป็นผู้ว่าฯ สั่งแก้ปัญหาเอง

‘สกลธี’ เผยอึดอัด เคยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. อำนาจจำกัด ขอเป็นผู้ว่าฯ สั่งแก้ปัญหาเอง ลั่นในยุคของผู้ว่าฯ สกลธี กรุงเทพฯ จะดีขึ้นกว่านี้ได้

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 กล่าวระหว่างการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 22 พ.ค. ว่า ขณะนี้เหลือเวลาการหาเสียงอีกไม่นาน ตนหวังว่าจะได้รับโอกาสจากคน กทม. ให้กลับมาบริหารเมืองหลวงแห่งนี้อีกครั้ง ไม่ใช่การเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. แต่กลับมาในฐานะของผู้ว่าฯ กทม. เพราะที่ผ่านมา 4 ปี มีข้อจำกัดหลายอย่าง และเห็นปัญหามาโดยตลอด โดยเฉพาะโครงสร้างของอำนาจใจการบริหารกรุงเทพฯ ที่ยังไม่เบ็ดเสร็จ

“มีหลายปัญหาที่ยังมีอำนาจที่ทับซ้อนกันหลายหน่วยงาน แม้ กทม.จะอยากลงไปแก้ไข แต่ไม่สามารถไปก้าวล่วงอำนาจตามกฎหมายได้ เช่น กรณีของการจราจร ที่มีถนนหลายสายในกรุงเทพฯ ที่ กทม.ทำได้แค่การขีดสี ตีเส้น บนถนนเท่านั้น แต่คนที่บังคับใช้กฎหมาย คือ ตำรวจจราจร หรือ ถนนวิภาวดี และถนนแจ้งวัฒนะ เป็นของกรมทางหลวง แต่คนมักเข้าใจว่าเป็นของ กทม. เมื่อมีปัญหาทุกครั้ง ก็มักจะโจมตีมาที่ กทม.ว่าทำไมไม่ทำ”

นายสกลธี กล่าวต่อว่า จากสาเหตุอยู่ที่กฎหมายข้อบังคับต่างๆ ด้วยความที่ตนเองก็เป็นนักกฎหมาย ได้เข้าไปศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ก็พบว่ามีกฎหมายตัวหนึ่งที่ล็อกเรื่องนี้ไว้ นั่นคือเรื่องของการใช้งบประมาณของ กทม. เข้าไปพัฒนาในพื้นที่ ที่ทำได้เพียงแค่ที่สาธารณะเท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปใช้ได้ในพื้นที่ของเอกชน หรือหน่วยงานราชการอื่น หลายคนอาจจะเจอว่า ถนนหน้าบ้าน ที่อยู่มาเป็นสิบๆ ปีไม่เคยแก้ไขได้สักที ตนอยากจะบอกว่า แม้ กทม. จะอยากเข้าไปทำ แต่ทำไม่ได้ เพราะติดที่ระเบียบข้อบังคับตัวนี้

“ดังนั้น ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็อยากจะเข้าไปแก้ไขระเบียบนี้ก่อน เพื่อให้เงินของ กทม.ได้เข้าไปพัฒนาความเป็นอยู่ของคนกรุงเทพฯ ได้ทุกตารางนิ้ว ไม่ได้คาดหวังว่าอำนาจของผู้ว่าฯ กทม.จะต้องเต็มเหมือนกับผู้ว่าฯ เมืองของต่างประเทศ แค่ขอให้ได้มีอำนาจได้เข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชนก่อน”

นายสกลธี กล่าวอีกว่า ตนยังต้องหาเงินเพิ่มจากนโยบายที่พูดมาตลอดว่า จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ที่หาเงินได้ ใช้เงินเป็น คนแรก จากการปรับเปลี่ยนการเก็บขยะ และการเก็บภาษีเมือง ตนคิดว่าแทนที่เราจะรอให้เขาไปแก้ว่าจะให้อำนาจเต็มกับผู้ว่าฯ กทม.คงไม่ต้องรอ แค่แก้ระเบียบกฎหมายตรงนี้ และมีเงินเอง มั่นใจว่าถ้าเป็นกรุงเทพฯ ในยุคของผู้ว่าฯ สกลธี กรุงเทพฯ จะดีขึ้นกว่านี้ได้

“พื้นฐานผมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มาก่อน สไตล์การทำงานคือ ไม่ชอบประชุมที่ศาลาว่าการ กทม. ผมชอบไปเจอคน ไปแก้ปัญหา แต่ตอนที่เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ยังไม่ใช่ตัวจริง อำนาจมีจำกัด เราก็เห็น เจอคนประสานทุกอย่างมา แต่นอกเหนืออำนาจที่ทำได้ ผมเลยอึดอัด”

“มาลงคราวนี้เพราะอยากจะเอาวิธีที่เราคิดว่ามันแก้ปัญหาได้ เคยพยายามเสนอแล้วแต่ไม่ผ่าน เพราะถ้าผู้ว่าฯ กทม.สั่ง จะมีคนทำ เพราะมีอำนาจโยกย้ายได้ แต่รองผู้ว่าฯ กทม.สั่งอาจจะไม่ฟัง พูดตรงๆ ว่า หลายอย่างที่อยากทำ ไม่ได้ทำเลย อยากจะมาแก้ในครั้งนี้” นายสกลธี กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ