ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน อีฟ แม็กซิม ฟ้องหมิ่น กานต์ วิภากร เมียร็อกเกอร์ดัง เสก โลโซ คงจำคุก 5 ปี ปรับ 2.5 แสน รอลงอาญาจำคุก 2 ปี รายงานตัวคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง รอลุ้นอีกคดี
เวลา 09.30 น.วันที่ 15 ก.ย.ที่ ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมิ่นประมาทหมายเลขดำอ.1675/62 ที่ น.ส.อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ หรือ อีฟ แม็กซิม อายุ 31 ปี อดีตภรรยาเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ ร็อกเกอร์ชื่อดัง เป็นโจทก์ฟ้อง นางวิภากร หรือกานต์ ศุขพิมาย อายุ 48 ปี ภรรยา เสก โลโซ เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
กรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย.62 วันที่ 6 พ.ค.62 และวันที่ 14มิ.ย.62 จำเลยซึ่งใช้ เฟซบุ๊ก wiphakorn Karn โพสต์ข้อความใส่ความทำนองว่า โจทก์ เป็นเหลือมนรก ไม่เหลือยางอายไว้เพื่อศักดิ์ศรีของเหลือมเองบ้างเหรอ และข้อความอื่นๆ ซึ่งลดคุณค่าโจทก์ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328 ด้วย
คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 เห็นว่า จำเลย กระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษา จำคุก 5 กระทงๆ ละ 1ปี และปรับกระทงละ 50,000 บาทรวมจำคุก 5 ปี ปรับ 250,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี รายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติ 2 ปี
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติในเบื้องต้นว่า มีบุคคลนำภาพและข้อความไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กของจำเลยชื่อบัญชี Wiphakorn Karn มีเนื้อหาด่าทอบุคคล ชื่อ“ เหลือม” หรือ“ อีเหลือม” ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อความกับภาพดังกล่าวได้ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยก่อนว่าจำเลยเป็นผู้เผยแพร่ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊กของจำเลยตามฟ้องหรือไม่
ข้อนี้จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวไม่ใช่ของตน ทั้งจำเลยเป็นบุคคลมีชื่อเสียงใช้เฟซบุ๊กในการสื่อสารกับบุคคลทั่วไปย่อมต้องระมัดระวังไม่ให้บุคคลใดรู้รหัสผ่าน โดยโจทก์และพยานเบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว เผยแพร่ภาพและข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ตามฟ้องซึ่งในวันที่ 7 ส.ค. 2562 ภายหลังเกิดเหตุจำเลยยังใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวถ่ายทอดสด แสดงให้เห็นว่าจำเลยยังคงใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวมาโดยตลอด และจำเลยไม่มีพยานหลักฐานมาหักล้างว่าบุคคลที่เผยแพร่ภาพและข้อมูลในเฟซบุ๊กของจำเลยตามฟ้องเป็นบุคคลใด อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ในส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นการโพสต์ข้อความลอย ๆ ไม่ได้ระบุชื่อโจทก์นั้นเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไร้น้ำหนักพยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ว่ารูปภาพและข้อความที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของจำเลยมุ่งประสงค์ถึงตัวโจทก์อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยประการสุดท้ายว่าข้อความตามฟ้องเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์หรือไม่ เห็นว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดนี้มุ่งประสงค์กล่าวหาเรื่อง ประจานโจทก์ ว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีหากินด้วยการค้าประเวณี เป็นคนปลิ้นปล้อน ปอกลอก ทรัพย์สินของคนอื่น อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการสุดท้ายว่า ไม่สมควรรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่าโจทก์กับจำเลยต่างมีนายเสกสรร เป็นสามีคนเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายย่อมมีความรู้สึกหึงหวง และพยายามใช้วิธีการทุกอย่างที่จะให้นายเสกสรรสามี กลับมาอยู่ในความครอบครองของตนเพียงลำพัง ความขัดแย้งด้วยการโพสต์ข้อความส่วนใหญ่เป็นคำที่ไม่สุภาพและหยาบคายรุนแรงเกินเลยไป แต่ก็เป็นเรื่องเป็นราวของครอบครัวทั้งสองฝ่ายเอง
ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจในการลงโทษจำเลยโดยรอการลงโทษให้จำเลยจึงเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ด้าน นางวิภากร หรือกานต์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรมาก ศาลพิพากษายืนให้รอลงอาญาเหมือนเดิมและพร้อมจ่ายเงิน 250,000 บาทอยู่แล้ว
ส่วนคดีความที่ฟ้องร้องกันกับ อีฟ อภิสร์ญา นั้น ยังคงมีอีก 1 คดีที่ขั้นตอนยังอยู่ในศาลชั้นต้น และคดีนี้ตนเองคงไม่ฎีกา
ส่วนจะพูดคุยกับอีกฝ่ายหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตและก็แก้ไขให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่าในอนาคตมีโอกาสจะมาพูดคุยหรือปรับความเข้าใจกับ อีฟ-อภิสร์ญาหรือไม่ภายหลัง นายเสกสรร หรือเสกโลโซให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้แค่มาให้กำลังใจภรรยาส่วนเรื่องราวนี้ก็อยากให้จบกันไปอยากจะเคลียร์ให้จบ ๆ ไปเพราะเรื่องผ่านมานาน 2-3 ปีแล้วจะได้ทำมาหากินจะได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงหรือกังวล
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากจะเป็นตัวกลางให้สองฝ่ายมีการพูดคุยกันหรือไม่ นายเสกสรรกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยทำแล้ว แต่เขาไม่ยินยอมไม่อยากคุยด้วยตนคงประสานอะไรไม่ได้
เมื่อถามว่าเรื่องราวหรือคดีความที่เกิดขึ้นกระทบกับชื่อเสียงของเสกโลโซหรือไม่ นายเสกสรร กล่าวว่า คิดว่าไม่ เพราะเดี๋ยวนี้เกิดคดีแบบนี้เยอะมาก เช่น มีดาราที่โดนคนอื่นหมิ่นประมาทเยอะก็เป็นเรื่องปกติ พอมีเฟซบุ๊กมีการโพสต์อะไรลงไป ก็อยากให้คิดก่อน ให้คิดว่าอาจจะโดนฟ้องหมิ่นประมาทได้ แต่ตอนนี้ทุกฝ่ายก็ใจเย็นขึ้นไม่มีอะไรกระทบกระเทือนกันแล้ว เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่อยู่ในกระบวนการของศาล
ส่วนเรื่องการทำงานตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด -19 ก็แย่ พอพูดเรื่องนี้ก็หนักกว่า แต่ไม่ใช่ผมคนเดียว ก็เป็นกันทั้งประเทศ ช่วงนี้ตนทำได้เพียงแค่เดินสายช่วยเหลือสังคมไป
ล่าสุดในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ก็จะเล่นคอนเสิร์ตสตรีมมิ่งออฟไลท์ เพื่อเอาเงินไปซื้อเครื่องช่วยหายใจให้มูลนิธิมิราเคิลออฟไลท์และทำกิจกรรมเกี่ยวกับการพาผู้ป่วยกลับไปรักษาที่บ้าน ต้องบอกว่าตอนนี้งานบันเทิงแย่แต่เรายังแข็งแรงอยู่ก็ช่วยเหลือสังคมกันไป