ศาลอาญา สั่งจำคุก แฮกเกอร์เปลี่ยนชื่อศาลรัฐธรรมนูญ 1 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ชดใช้แพ่ง 8.7 หมื่น แม้ศาล รธน.เรียก 10 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2565 ศาลอาญามีคำพิพากษา อ.3324/2564 คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวชิระ สุภเถียร อายุ 34 ปี หนุ่มปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ ดีกรีเคยชนะเลิศการประกวดเขียนเว็บไซต์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในความผิดฐานเข้าถึงมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน
ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ กรณีแฮกเว็บไซต์ของศาลรัฐธรรมนูญแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Kangaroo Court
โดยอัยการโจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำของจำเลย ทำให้ระบบเสียหาย แก้ไขเปลี่ยนแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลอาญาพิเคราะห์เเล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ไม่รอการลงโทษ
โดยการฟังคำพิพากษาวันนี้ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายจำเลยเดินทางมาศาล เปิดเผยว่า ค่าเสียหายในส่วนแพ่งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เรียกค่าเสียหายมาทั้งหมด 10,288,972 บาท แบ่งเป็นค่าเสียหายเกี่ยวกับชื่อเสียง 10,000,000 บาท ประเด็นสำคัญ คือ ศาลรัฐธรรมนูญไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับชื่อเสียงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 เพราะการเรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับชื่อเสียงตามมาตรานี้ ต้องเกี่ยวเนื่องกับคำฟ้องในคดีอาญา
นายนรเศรษฐ์ ระบุต่อว่า คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเกี่ยวกับการทำให้เสียหาย แก้ไขเปลี่ยนแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมฯ ไม่ได้ฟ้องความผิดเกี่ยวกับชื่อเสียง ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำให้ศาลรัฐธรรมนูญเสื่อมเสียชื่อเสียง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับชื่อเสียง ตามมาตรา 44/1 เพราะเป็นการเรียกร้องค่าเสียหายในส่วนแพ่งที่ไม่สอดคล้องกับมูลความผิดทางอาญา ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องคดีอาญา
ในส่วนความเสียหายทางเเพ่ง ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเพียงแค่ 87,227 บาท ส่วนค่าเสียหายเกี่ยวกับชื่อเสียง 10,000,000 บาท ศาลอาญายกคำร้อง