คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เลือกตั้ง ท้องถิ่น ใต้ รัฐราชการรวมศูนย์ ระบอบ ประยุทธ์
หากมองจากจำนวน 5,000 เขตทั่วประเทศ การได้มา 38 เขตถือว่าน้อยอย่างยิ่ง
แต่กล่าวสำหรับคณะก้าวหน้าเมื่อนำเอาผลการเลือกตั้งอบต.ไปเทียบกับการเลือกตั้งระดับเทศบาล และการเลือกตั้งระดับอบจ.
ก็ต้องยอมรับว่ามีความก้าวหน้า แสดงพัฒนาการ
เพราะในการเลือกตั้งอบจ.ก็ไม่ได้รับเลือก นายกอบจ.แม้แต่คนเดียว ที่ได้ก็เพียงสมาชิก อบจ.จำนวนหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ระดับเทศบาลได้ มา 17 เทศบาล
จาก 17 มาได้นายกอบต. 38 ถือว่างดงาม
ไม่ว่าศึกอบจ. ไม่ว่าศึกเทศบาล ไม่ว่าศึกอบต.คือการต่อสู้อยู่กับระบบ ระบอบเก่า
เป็นระบบและระบอบเก่าในทางการเมืองที่ดำรงอยู่ภายใต้โครงสร้างแห่ง“รัฐราชการรวมศูนย์” อย่างต่อเนื่องและยาวนานอย่างยิ่ง
โดยมี “ระบอบประยุทธ์” เป็นฝ่ายกำหนดและบงการ
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีความพยายาม“กระจายอำนาจ” แต่แล้วเมื่อเข้าสู่รัฐประหารเดือน พฤษภาคม 2557 การกระจายอำนาจเพียงผิวเผินก็ถูกทำลาย
ไม่มีการเลือกตั้งยาวนานต่อเนื่องถึง 7-8 ปี
ความพยายามของ“คณะก้าวหน้า”จึงเป็นความพยายามที่ต้องเจอกับ“อุปสรรค”
เป็นอุปสรรคของระบบการเมืองที่เอื้อ อำนวยให้กับเครือข่าย“อิทธิพล”ที่มีการประสานระหว่าง“บ้านใหญ่”ในท้องถิ่นกับ“อำนาจรัฐ”
ไม่ว่าเลือกตั้ง“ท้องถิ่น” ไม่ว่าเลือกตั้ง“ระดับชาติ”
การรุกเข้าไปในระดับท้องถิ่นของคณะก้าวหน้าจึงเท่ากับเป็นการรุกเข้าไปในเขตยึดครองของอำนาจเก่า ระบอบเก่าที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน
ได้มา 38 อบต. ได้มา 17 เทศบาลก็ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งแล้ว
ประสบการณ์จากการเลือกตั้งในระดับ “ท้องถิ่น”น่าจะเป็น“บทเรียน”อันทรงความหมาย
อย่างน้อยการเลือกตั้งระดับชาติไม่ว่าจะมีขึ้นภายในปี 2565 ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายหลังครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 หนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน
หนักหนาสาหัสและท้าทายอย่างแหลมคมสูงสุด