ภาพจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มากด้วยความแหลมคม
การตีจากพรรคพลังประชารัฐมาสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จึงปรากฏผลสองด้าน
ทั้งด้าน “บวก” และด้าน “ลบ”
การตัดสินใจไม่ว่าจะของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตลอดจนของพรรคเพื่อไทย จึงมีทั้ง “รายรับ” และ “รายจ่าย”
นั่นก็คือเมื่อมี “ได้” ก็มีโอกาสต้อง “เสีย”
ในการตัดสินใจของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คือตอกย้ำ
เหมือนกับจะเป็นการเคลื่อนไหว เหมือนกับจะเป็นการเปลี่ยนแปลง จากพรรคพลังประชารัฐมายังพรรคเพื่อไทย แต่ก็เป็นเพียงการเปลี่ยนเสื้อ
ยังคงเป็น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังคงเป็น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
เหมือนกับจะย้อนกลับไปยัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ครั้งที่ยังอยู่กับพรรคไทยรักไทย
เหมือนกับไม่เคยสวมเสื้อ “พลังประชารัฐ” มาก่อน กระนั้นหรือ
แท้จริงแล้ว การตัดสินใจร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ มีความสำคัญเป็นอย่างสูง
สำคัญเพราะทั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แสดงบทบาทเป็นผู้ก่อตั้งมีส่วนร่วมในการลงหลักปักฐาน
ผ่านความเชื่อ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
คำถามอยู่ที่ว่าคำว่า “พวกเรา” ที่เคยหมายถึงพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ให้ความหมายว่าหมายถึงพรรคเพื่อไทยกระนั้นหรือ
เท่ากับ “เพื่อไทย” เป็นอย่างเดียวกับ “พลังประชารัฐ”
การประเมินบทบาท นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จึงสำคัญ
ด้านหนึ่ง เป็นการประเมินตัวตนของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ด้านหนึ่ง จึงเท่ากับเป็นการประเมินพรรคเพื่อไทย
ต่างไปจาก “พลังประชารัฐ” หรือไม่ อย่างไร