ชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลสร้าง“ช็อก”อย่างรุนแรงในทางการเมือง
ไม่เพียงแต่เท่ากับเป็นการดับฝัน“แลนด์สไลด์”จากยุทธศาสตร์ที่จัดวางเอาไว้อย่างรัดกุมโดย“เกจิ”ทางการเมืองอันเจนจบ
หากยังทำให้พรรคเพื่อไทยได้ลิ้มรสแห่ง“ความพ่ายแพ้”เป็นครั้งแรก
เพราะนับแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยและเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2544 ก็ได้ชัยชนะมาอย่างต่อเนื่องแม้กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
ชัยชนะของ“ก้าวไกล”เป็นเรื่อง“บังเอิญ”กระนั้นหรือ
มองจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ เหมือนกับไม่น่าเป็นไปได้
เป็นไปได้อย่างไรที่ภายในพรรคก้าวไกลไม่เพียงแต่อุดมไปด้วย”ละอ่อน” หากแต่ยังยากไร้”เงินทุน”อันแน่นหนาให้การสนับสนุน
จนถึงกับต้องจัด“ทอดผ้าป่า”เพื่อนำมาทำ“ป้าย”
เป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถครองความเหนือกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ที่มากด้วยผู้มีประสบการณ์ อุดมสมบูรณ์ด้วยเงินทุน
ในความเป็นไปไม่ได้จึงน่าจะมาจาก“โชคช่วย”
บังเอิญสิ่งที่เรียกว่า“โชค”นั้นกลับเป็นความแหลมคมในการวิเคราะห์
ไม่ว่า“ขงเบ้ง”ของพรรคก้าวไกลจะชื่อว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หรือเก็บรับผลสะเทือนมาจากคนของคณะก้าวหน้า
ไม่ว่าจะเป็น “ธนาธร” ไม่ว่าจะเป็น “ปิยบุตร”
แต่บทสรุปในการวิเคราะห์สถานการณ์และลักษณะทางสังคมการเมืองเมื่อมาอยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ได้รับการบริหารอย่างชาญฉลาด
ไม่ว่า“ก่อน” เลือกตั้ง ไม่ว่า“หลัง”เลือกตั้ง
ยิ่งปล่อยให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เล่นบท“ว่าที่”นายกรัฐมนตรียิ่งโดดเด่น
โดดเด่นเหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดดเด่นเหนือกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดดเด่นเหนือกว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ในความสด ในความใหม่ ในความทันสมัย