วิเคราะห์การเมือง – จุดแข็ง การเมือง สมคิด สร้างอนาคตไทย อาจเป็น จุดอ่อน

Home » วิเคราะห์การเมือง – จุดแข็ง การเมือง สมคิด สร้างอนาคตไทย อาจเป็น จุดอ่อน


วิเคราะห์การเมือง – จุดแข็ง การเมือง  สมคิด สร้างอนาคตไทย  อาจเป็น จุดอ่อน

ทำไมการแยกตัวออกมาของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จึงได้รับความสนใจ

เพราะว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มิได้ดำรงอยู่อย่างเป็น “ปัจเจก” ในลักษณะตัวคนเดียว หากแต่เป็นการดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็น “ตัวแทน”

ในฐานะ “ประธาน” พรรคสร้างอนาคตไทย

ยิ่งกว่านั้น การแสดงออกของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังเป็นการวิพากษ์ให้เห็นความล้มเหลวของระบอบการเมืองซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นตัวแทน

นี่เป็นปฏิบัติการ “หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ” อย่างแจ้งชัด

จะอ่านทิศทางของพรรคสร้างอนาคตไทยต้องอ่าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

แม้ว่าหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะเคยมีบทบาทเป็นอย่างสูงในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย

แต่สถานะก็เปลี่ยนไปเมื่อเกิดรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

เห็นได้จากการดำรงอยู่ในสถานะที่ปรึกษารัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และยิ่งมีบทบาทมากยิ่งขึ้นหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

เมื่อดำรงตำแหน่งเป็น “รองนายกรัฐมนตรี”

ความหมายของพรรคสร้างอนาคตไทย และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เกิดจากอะไร

เกิดจากด้านหนึ่ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ “4 กุมาร” ถูกขจัดออกจากพรรคพลังประชารัฐ และจากตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ด้านหนึ่ง เกิดความไม่พอใจและปะทุผ่านพรรคสร้างอนาคตไทย

แรงปะทุของพรรคสร้างอนาคตไทยจึงนำไปสู่การวิพากษ์พรรคพลังประชารัฐ วิพากษ์และชี้ให้เห็นความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

บทบาทนี้จึงเท่ากับเป็นการวิพากษ์จาก “ภายใน”

ปมเงื่อนอยู่ที่ว่าบทบาทพรรคสร้างอนาคตไทย บทบาทของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

จะส่งผลสะเทือนให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะส่งผลสะเทือนให้กับพรรคพลังประชารัฐมากน้อยเพียงใดในทางการเมือง

นั่นก็คือ ประชาชนจะ “เลือก” เข้ามามากน้อยเพียงใด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ