กรมอุทยานฯ ลุยฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้าง ปีนี้นำร่องป่าอ่างฤๅไน หลังประชากรล้นขัดแย้งชาวบ้านหนัก พร้อมวิจัยทำหมันช้างป่าคุมประชากร รบ.เดินแผนแก้ปัญหาช้างเป็นวาระชาติ
11 มี.ค. 66 – ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาช้างป่า ว่า
เรื่องของช้างป่าที่เริ่มมีปัญหากระทบกระเทือนกับประชาชนเป็นวงกว้างมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสนใจและมีการตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง หรือคณะกรรมการช้างแห่งชาติขึ้นมา มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อจัดระเบียบทั้งในเรื่องของช้างป่าและช้างบ้าน
รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้าง โดยเฉพาะช้างป่า ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้เป็นคณะกรรมการในเชิงนโยบายที่จะกำหนดมาตรการและแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ขณะนี้มีทั้งหมด 16 กลุ่มป่าที่เกิดผลกระทบเรื่องช้าง โดยมี 5 กลุ่มป่าที่มีผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด กลุ่มป่าภูกระดึง ภูค้อ ภูกระแต ภูหลวง เป็นต้น ที่ปัจจุบันได้รับการร้องเรียนมาค่อนข้างมาก
นายอรรถพล กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ ซึ่งมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธาน จะมีการประชุมในเร็วนี้ เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 5 เม.ย.นี้ โดยจะมีการกำหนดให้การแก้ปัญหาช้างเป็นวาระแห่งชาติ มีการกำหนดแผนในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด
เริ่มจากในเรื่องของการปรับพื้นที่กลุ่มป่าให้มีความพร้อมในเรื่องของแหล่งน้ำและแหล่งอาหารและต่อไปหัวหน้าอุทยานฯและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต้องเข้าใจในมิติของการจัดการพื้นที่เพื่อสัตว์ป่าด้วย มีการบริหารจัดการแหล่งน้ำและอาหาร เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมานอกพื้นที่ก็ต้องเร่งดำเนินการ เป็นแผนที่ทุกหน่วยต้องรับไปปฏิบัติ และต้องเขียนแผนในการของบประมาณ
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ในกรณีที่ช้างออกมาแล้ว ต้องมีระบบการแจ้งเตือน ควบคุม และระบบการผลักดันอย่างไร ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้พิจารณาเงินรายได้ของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักอุทยานฯ ไปช่วยเหลือในการจัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้าง
ซึ่งในเบื้องต้น 15 ชุดในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และจะมีการปล่อยกำลังหลังการฝึกอบรมในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นหน่วยสกัดกั้นและแจ้งเตือนประชาชนก่อนที่ช้างจะออกมาทำลายพืชผลและสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้จะมีการของบกลางหรืองบสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อให้มีชุดปฏิบัติการดังกล่าวให้ครบทั้ง 16 กลุ่มป่า ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้กว่า 100 ชุด เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายต่อไป
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นแล้ว จะต้องมีการเยียวยาที่เหมาะสมและยุติธรรมต่อประชาชน ได้มีการพูดคุยกันว่าเมื่อพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายแล้ว จะต้องเร่งให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และคุ้มค่าเป็นธรรมกับความเสียหาย
โดยอาจจะต้องใช้เงินกองทุนหรือมีกฎหมายเข้ามาประกอบ ซึ่งปัจจุบันเรามองว่ากฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สามารถจะกำหนดเงื่อนไขค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้เข้าไปได้ ถ้าเห็นชอบในหลักการเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถใช้งบกลางในการไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรม
นายอรรถพล กล่าวว่า นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการควบคุมประชากรช้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดที่มีประชากรช้างเกินขีดจำกัดของพื้นที่ ก็มองกันว่าจะทำอย่างไรจึงจะควบคุมประชากรช้างได้ ซึ่งมีวิธีเดียวคือเรื่องของการคุมกำเนิด โดยตอนนี้มีการศึกษาโดยสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้เริ่มวิจัยว่าวัคซีนที่ฉีดไปที่ช้างแล้วสามารถทำให้ลดการกำเนิดของลูกช้าง ก็จะสามารถทำให้ลดประชากรช้างได้
อีกส่วนหนึ่งคือเป็นแนวคิดในการทำพื้นที่ควบคุมพฤติกรรมช้าง หรือเขตกักกันช้างป่า ที่ตรงไหนที่มีช้างเกเรที่ออกไปทำลายพืชผลอาสินของประชาชน เราอาจจะมีการจัดพื้นที่ตรงนี้ เช่น ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เราได้พูดคุยกันแล้วว่าจะมีการกำหนดพื้นที่ 1,000-2,000 ไร่ขึ้นไป ในการกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมช้างเพื่อลดความเสียหายต่อประชาชน
ด้านนายเผด็จ ลายทอง ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีช้างอาศัยในธรรมชาติ 4,013-4,422 ในพื้นที่อนุรักษ์ อุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์ฯ 91 แห่ง และป่าสงวนแห่งชาติบางพื้นที่ รวมพื้นที่ 5.2 หมื่นตร.กม. โดยปี 2565 ที่ผ่านมา มีช้างป่าตาย 43 ตัว บาดเจ็บ 8 ตาย คนตาย 22 ราย บาดเจ็บ 14 ราย ส่วนปี 2566 มีช้างป่าตายแล้ว 10 ตัว บาดเจ็บ 10 ตัว คนตาย 12 คน และบาดเจ็บ 14 คน
ที่ผ่านมาสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าได้สนับสนุนงบประมาณให้ชุดผลักดันช้างป่าในชุมชนที่มีปัญหา ปีละ 5 หมื่นบาท ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งเรื่องนี้ต้องสร้างเครือข่ายและอาศัยการมีส่วนร่วมจากชุมชนในการแก้ปัญหาร่วมกัน
นายเผด็จ กล่าวว่า สำหรับประเด็นการคุมกำเนิดช้าง ขณะนี้ในส่วนของวช.ก็มีการทำวิจัยในเรื่องการทำหมันช้าง ซึ่งก็มีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้กรมอุทยานฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ยื่นขออนุญาตขึ้นทะเบียนวัคซีนคุมกำเนิดช้าง จากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
โดยวัคซีนคุมกำเนิดช้างดังกล่าว นำเข้าจากประเทศเยอรมันชื่อวัคซีน Spyvax ซึ่งมีการใช้แล้วในประเทศแถบแอฟริกา ราคาเข็มละประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท สามารถคุมกำเนิดได้ 7 ปี ใช้กับช้างเพศเมียที่ผ่านการมีลูกแล้ว 1 ตัวขึ้นไป
เมื่อได้รับอนุญาตจะนำวัคซีนมาทดลองกับช้างบ้านในปางช้างทางภาคเหนือซึ่งได้คัดเลือกไว้แล้ว เพื่อดูในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน โดยจะนำไปฉีดนำร่องในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงสิ้นปีนี้ ทั้งนี้จะมีการพัฒนาใช้โดรนในการฉีดวัคซีนคุมกำเนิดและผลักดันช้างป่าต่อไปด้วย