Apple Intelligence และชิปที่ออกแบบเองจะเข้ามาเสริมทัพอุปกรณ์ราคาประหยัดของ Apple ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมสู้ศึกในตลาดที่การแข่งขันสูง
Apple พร้อมทลายกำแพงราคา เปิดประสบการณ์ระดับพรีเมียมให้ทุกคน ด้วยฟีเจอร์อย่างหน้าจอ OLED, Face ID และเทคโนโลยีไร้สายขั้นสูงในอุปกรณ์ราคาประหยัด
8 อุปกรณ์ราคาประหยัดใหม่ล่าสุดจาก Apple ที่จะเปิดตัวในปีนี้
- MacBook Air (M4): เร็วแรงขึ้นกว่าเดิม 25% ด้วยชิป M4 รองรับจอภาพภายนอก 2 จอ และเว็บแคม 12MP พร้อม Center Stage ราคาเริ่มต้น $1,099 (ราว 38,000 บาท) พร้อม RAM 16GB ในทุกรุ่น
- iPhone SE (รุ่นที่ 4): ดีไซน์โฉมใหม่คล้าย iPhone 14 หน้าจอ OLED 6.1 นิ้ว, Face ID, พอร์ต USB-C, กล้องหลัง 48MP, ชิป A18, RAM 8GB รองรับ Apple Intelligence และโมเด็ม 5G รุ่นแรกของ Apple ราคา $400-$500 (ราว 14,000 – 17,500 บาท)
- iPad (รุ่นที่ 11): หน้าจอ 10.9 นิ้ว, Touch ID, ชิป A17 Pro หรือ A18, RAM 8GB รองรับ Apple Intelligence ราคาเริ่มต้น $349 (ราว 12,000 บาท)
- AirTag (รุ่นที่ 2): ชิป Ultra Wideband ใหม่ เพิ่มระยะการติดตาม 3 เท่า, ผสานกับ Vision Pro ได้ดียิ่งขึ้น, ลำโพงป้องกันการงัดแงะ ราคา $29 (ราว 1,000 บาท)
- Command Center: ฮับบ้านอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด หน้าจอ 7 นิ้ว, ลำโพงในตัว, กล้อง FaceTime, เซ็นเซอร์ตรวจจับความใกล้เคียง, ระบบปฏิบัติการ “homeOS” พร้อมวิดเจ็ตและ Siri ราคาคาดว่าจะใกล้เคียงกับ Amazon Echo Show ($90 หรือราว 3,100 บาท)
- HomePod mini (รุ่นที่ 2): ชิป Wi-Fi และ Bluetooth ใหม่ รองรับ Wi-Fi 6E, เสียงดีขึ้น, ชิป Ultra Wideband รุ่นที่ 2 ราคา $99 (ราว 3,400 บาท)
- Apple TV 4K (รุ่นที่ 4): ชิป A-series ใหม่, Wi-Fi 6E, กล้อง FaceTime ราคาเริ่มต้น $99 (ราว 3,400 บาท)
- Apple Watch SE (รุ่นที่ 3): หน้าจอใหญ่ขึ้น, ชิป S10 หรือ S11, ตัวเรือนพลาสติก ราคา $249 (ราว 8,700 บาท)
