ลาล่า เผยสัมพันธ์แฟนหนุ่ม – เล่าหมด ซ่อมน้องสาว ให้อวบอิ่มอมชมพู
ลาล่า เผยสัมพันธ์แฟนหนุ่ม / เดินทางมาร่วมทำบุญบ้าน และร่วมรำบวงสรวงถวาย พ่อปู-แม่ย่า พญานาค เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว สำหรับน้องร้องลูกทุ่งมากความสามารถ ลาล่า อาร์สยาม หรือ ขวัญนภา เรืองศรี
หลังเสร็จพิธีต่างๆ ลาล่า ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มมาดเข้ม ดีกรีมือกลองของ ก้อง ห้วยไร่ และเรื่องลับๆ ฉบับสาวๆ ซ่อมน้องสาวให้อวบอิ่มอมชมพู
นอกจากธุรกิจปัง ความรักก็ปัง? “อันนี้เป็นครั้งแรกที่ตอบได้ไม่เต็มปาก แต่ถามว่ามีความสุขไหม มีความสุขค่ะที่เป็นในรูปแบบนี้ แต่ถ้าบอกว่าใช่เลยก็จะโดนว่าเปิดตัวแรงอีกแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป คนนี้เขาฉีกแนวเลยนะ ไม่ใช่สเป๊กเรา เป็นคนมีหนวด ผมยาว ไม่รู้ว่าผีผลักหรือเพื่อนผลักก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ก็เริ่มจากคลิปเล่นกัน หยอกกัน แล้วติดอกติดใจกันตอนไหนก็ไม่รู้
แต่คนนี้กระแสนิยมมาในด้านบวกนะ ปกติจะมีคอมเมนต์มาว่าคนนั้นไม่เหมาะสม คนนี้ไม่เหมาะสม แต่ครั้งนี้สร้างเป็นด้อมมาให้เลย เป็น #บ้านล่าตูน #ล่าจารตูน ก็ตกใจว่ามันมาอย่างรวดเร็ว เราก็เลยไม่ปฏิเสธที่จะปิดกั้นดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะเข้ามามันก็จะเริ่มจากการเป็นเพื่อนกันก่อนเนอะ ก็ให้คุยกันไปแบบนี้ด้วยความสบายใจ”
เมื่อไม่ใช่สเป๊กตั้งแต่แรก อะไรทำให้เปิดใจ? “เขามีความใส่ใจทุกรายละเอียด คุยกับเขาเราก็ไม่เหนื่อยด้วย ไม่ต้องตามหวงตามหึง ด้วยลุกส์เขาด้วย แต่ที่เราสัมผัสมาคือเขาไม่เป็นมือปลาหมึก เขาไม่มีความเจ้าชู้ไม่มีเรื่องผู้หญิงให้เรามีกลิ่นเลย เขาให้เกียรติผู้หญิง แม้ปากเขาอาจจะทะลึ่งเหมือนคุณก้อง ห้วยไร่นะ แต่เขาให้เกียรติผู้หญิง ให้เกียรติเราดี”
ก่อนหน้าก็มีข่าวแต่กับหนุ่มหล่อเลย? “ใช่ อันนั้นเราเลือกไง เราเลือกที่เราอยากได้ไง อยากได้แบบนั้นๆ ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนขี้เหล่นะ ทุกคนบอกเขาผมสั้นๆ หล่อเลยนะ ตัดผมคือหน้าตาดีเลย เขาเลยบอกว่าถ้าอยากให้เขาตัดผม ให้เราเอาน้ำหนักลง 15 กิโลฯ เราก็พยายามนะ ดีที่เขาไม่กำหนดเดือนนะ มีแต่เรากำหนดตัวเองเลยว่าจะลดภายในเดือน 2 เดือนนี่แหละ”
เหตุผลที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นเพราะมีความรัก? “อู๊ย! (หัวเราะ) เป็นส่วนหนึ่งด้วย เรื่องงานเราด้วย เราก็ต้องดูแลสุขภาพด้วย มันจำเป็นด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก เราเห็นตัวเองก็รับไม่ได้ทั้งเรื่องขึ้นกล้อง เรื่องหาเสื้อผ้าทำงานด้วย โอเคงั้นพยายามช่วยตัวเองอีกหน่อยแล้วกัน”
ด้วยความเป็นลาล่าด้วยไหม คนก็คาดหวัง? “ก็ต้องขอบคุณเขามากกว่า จริงๆ มันคือแรงกดดันนะ ถ้าบางคนคุมตัวเองไม่อยู่ก็เสียอกเสียใจ บางทีน้ำเสียงเขาอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าบูลลี่ แต่จริงๆ คือความห่วงใย ก็เลยเปลี่ยนคำพวกนี้เป็นแรงบันดาลใจ เราเคยน้ำหนักลงไปแล้วก็มีความสุข แต่ก็มีช่วงโควิดเนอะยิมปิดไม่ได้ออกำลังกายมา 3 ปีแล้ว มันไม่ได้แล้ว รู้ได้เลยว่าการออกกำลังกายสำคัญมาก กินนอนก็สำคัญนะ”
นอกจากลดน้ำหนักมีไปทำสวยด้วย? “ตอนนี้ลูกหลานที่บ้านจำหน้าไม่ได้แล้ว ก็คิดนะที่หน้ามีอะไรอีกที่ยังไม่ได้ทำ ผมก็ปลูกแล้ว คิ้วสัก ตาก็กรีด จมูกไปทำ ปากฉีดวิตามิน แก้มก็แฟต ฟันก็จัด เหลืออะไรบ้างเนี่ย ท่านไหนอยากทำให้ลาล่าผอมก็ติดต่อมาได้ค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็มีปัญหาตรงโหนกแก้ม ก็มีความคิดว่าถ้าทำแล้วเราสวยขึ้น แต่ถ้าโหงวเฮ้งเสีย เงินไม่เข้าจะว่ายังไง ก็ช่างมันเถอะเนอะ ถ้าผอมแก้มก็จะแหลมเอง”
มีข่าวว่าไปปรับช่วงล่างมาด้วย? “อันนี้เม้าธ์นะ ทีแรกไม่กล้าทำหรอก แคร์พ่อแม่ด้วยนะยังไม่มีผัวเลยทำไมต้องไปปรับช่วงล่าง ก่อนที่จะทำก็ถามหมอมาก่อนว่าเฉพาะคนที่เสียบริสุทธิ์เหรอ หรือเฉพาะคนที่มีครอบครัวเหรอ หมอบอกไม่ใช่มันเป็นการดูแลภายใน ถ้าเราอั้นฉี่ หรือมีตกขาว หรือถ้าเราเป็นเมนต์ หรือสมมติตรงนั้นใครอยากให้เป็นสีชมพูอ่องต่อง (หัวเราะ)
เขาก็จะมีเลเซอร์ทำให้นวล อวบอิ่ม หมอบอกว่า ถ้าเรารักน้องเรา ก็เหมือนเรารักใบหน้าเรานั้นแหละ เป็นการกระตุ้นให้กระชับ ไม่ได้ใช้ได้แค่ผู้หญิงนะ ผู้ชายก็ได้ด้วย สำหรับผู้ชายที่อยากมีลูก หรือนกเขาจุกกรู๊ไม่ขัน ก็ช่วยได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เราก็คิดว่าไหนๆ หากเราไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่บ่อย (หัวเราะ) เราก็ควรดูแลเขาให้ดีที่สุดประดุจใบหน้าของเรา (หัวเราะ) อยากได้ชมพูมีความเบบี๋ (หัวเราะ)”
ทำมาแล้วเป็นยังไงบ้าง? “อันนี้แนะนำผู้หญิงจะได้ไม่กลัว สำหรับคนที่มีปัญหาแบบลาล่า คือชอบอั้นฉี่ เป็นตกขาว หรือการมีกลิ่น หมอก็ใช้วิธีเลเซอร์เข้าไป ก็เหมือนมีอะไรมาหยุมหน้าท้อง ไม่เจ็บ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะเป็นการผ่าตัด ตอนนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่เราเป็นมันก็ดีขึ้น เลือดที่ออกมามันไม่มีกลิ่น เพราะเราเป็นผู้หญิงเราก็จะเช็คตัวเองตลอดเนอะ”
มีผู้หญิงที่ซีเรียสเรื่องนี้เยอะ? “เยอะ เราเพิ่งรู้ว่าโลกมันเปิดกว้างมาก เหมือนเราไปเลเซอร์ขนนั่นแหละ เรากล้าตั้งขาขึ้นขนาดนั้น เราก็เป็นการดูแลตัวเองนั่นแหละ”
เรื่องงานโปงลาง? “จะกลับมารวมตัวกันอีก กับพี่อี๊ด งานแรกเริ่มที่จังหวัดปราจีนบุรี จะเป็นงานต่างจังหวัดมากกว่า ตอนนี้ก็พยายามซ้อมกันอีก ตอนนี้เราก็พยายามไปดูวงอื่นๆ เพื่อมาปรับ คือมันไม่เหมือนเดิมกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เราไปดูก้อง-เบิ้ล คนยืนดู 2 ชั่วโมงเนอะ เราก็คิดว่าเราจะต้องเล่นยังไงให้คนยืนดูเรา 2 ชั่วโมง ดูเราตอบมุขกัน มันต้องปรับเปลี่ยนนะ พี่อี๊ดก็ถามว่าเราจะเล่นเพลงไปในทิศทางไหน เวลารวมวงกันก็มีความกังวลหลายอย่าง”
สมาชิกเป็นยังไงบ้าง? “เปลี่ยนใหม่ ก็มีล้มหายตายจากกันไปบ้าง บางคนไปเป็นแม่บ้านที่ต่างประเทศ นางรำเซ็ตใหม่หมด นักดนตรียืนไว้ 2 คน ก็เป็นการเรียนรู้กันใหม่หมด ก็ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ เรื่องของการตบมุขอะไรกัน”
เรียกว่ากลับมาทวงบัลลังก์? “อย่าเรียกว่าทวงบัลลังก์ เรียกว่าคัมแบ๊กดีกว่า (เมื่อก่อน 365 วัน มีงานไปแล้ว 367 วัน?) เออ ถ้าไม่นับวันหยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเลือกตั้ง วันที่เขาไม่ให้ขายเหล้าเราก็มีงานตั้งแต่เช้าจริงๆ ช่วงนั้นผ่านมาได้ก็ดีใจ ภูมิใจ นี่แหละคือความกดดันที่จะเกิดขึ้นอีก งานแรกวันที่ 27 พ.ค. นี้ ที่ปราจีนบุรี อีกครั้งที่เชียงใหม่”