ร้านทำผมแฉเล่ห์กลลูกค้า หาข้ออ้างสารพัด โวยวายพนักงาน เพื่อทำผมฟรีครึ่งหมื่น แจ้งตร.มาตกลงถึงยอมจ่าย
วันที่ 5 ก.ค. 65 นายวัชรวีร์ จิรโชติวิจิตร์ เจ้าของร้านล้านนาดีเซีย ร้านทำผมในโครงการจริงใจมาร์เก็ต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เผยภาพวงจรปิดลูกค้าสาวชาวเกาหลีที่เข้ามาตัดผมและทำสีผมภายในร้านไม่ยอมจ่ายเงิน โดยอ้างว่าทำสีผมไม่ตรงกับที่ต้องการพร้อมกับโวยวายพนักงาน ทั้งที่ร้านได้แจ้งเงื่อนไขให้ทราบก่อนทำแล้ว ถึงขั้นตำรวจท่องเที่ยวต้องเข้ามาเจรจาและทางร้านยืนยันจะดำเนินคดีหากไม่ยอมจ่าย จนในที่สุดลูกค้าคนนี้ยอมจ่ายแค่ครึ่งเดียว
นายวัชรวีร์ กล่าวว่า ลูกค้าคนนี้เข้ามาที่ร้านกับแฟนหนุ่ม บอกว่าจะมาตัดผมและทำสีผม โดยนำภาพสีผมที่ต้องการมาให้ดู ก่อนจะตกลงราคากันได้ที่ 5,900 บาท จึงเริ่มลงมือทำ ระหว่างนั้นลูกค้าคนนี้ก็ได้ติการทำเกือบทุกขั้นตอน ทั้งที่ยังทำไม่เสร็จ หลังจากผ่านการกัดสีผมหลายครั้งและได้ทำสีผมจนเสร็จในเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ลูกค้าคนนี้ก็บอกว่าสีผมไม่ตรงที่ต้องการและจะไม่ขอจ่ายเงิน ทำให้ช่างที่ร้านต้องโทรศัพท์เรียกตนไปเจรจา
เมื่อตนไปถึงร้าน ลูกค้ายืนยันไม่ยอมจ่ายอ้างว่าสีไม่ตรงปก ตอนนั้นทางร้านทราบแล้วว่าเป็นความตั้งใจที่จะหาข้ออ้างทำผมฟรี ทางร้านจึงเสนอขอทำสีผมให้กลับเป็นสีดำเหมือนเดิม แต่หญิงต่างชาติคนนี้ก็ไม่ยอมและยืนยันไม่จ่ายและบอกว่าจะโทรศัพท์แจ้งสถานทูตฯ ทำให้ทางร้านต้องแจ้งตำรวจ สภ.ช้างเผือก เข้ามาเจรจา แต่คุยกันนานจนถึงเกือบเที่ยงคืนก็ยังไม่ยอมจ่าย พร้อมกับโวยวายอีกสารพัด
ทางตำรวจจึงประสานกับตำรวจท่องเที่ยวเข้ามาช่วยเจรจาอีกทางหนึ่ง ปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวยังไม่ยอมและบอกว่าจะแจ้งความดำเนินคดี ทำร้านทางร้านไม่ทน บอกว่าจะแจ้งความด้วยเช่นกันและเตรียมทนายไว้แล้ว จนในที่สุดตำรวจท่องเที่ยวได้เกลี้ยกล่อมจนสาวคนนี้ยอมจ่ายเงิน แต่ขอจ่ายแค่ 3,000 บาท ซึ่งทางร้านก็ไม่อยากเรื่องยาวเพราะเป็นเวลาตีสองกว่าแล้ว มันดึกมาก จึงตกลงเพื่อจบเรื่อง
เจ้าของร้าน กล่าวว่า เงิน 3,000 บาท ที่จ่ายมา ไม่คุ้มกับต้นทุนที่ลงไป ทั้ง น้ำยาเคมี ผลิตภัณฑ์สีทำผม รวมแล้วเกือบสี่พันบาท ไม่รวมกับค่าจ้างช่างทำผม และ ค่าเสื่อมอุปกรณ์ที่ใช้ทำผมให้ โดยพฤติกรรมของสาวเกาหลีคนนี้ มั่นใจว่าตั้งใจมาทำฟรี เพราะคงรู้ว่าหากทางร้านทำผมไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ทางร้านจะรับผิดชอบด้วยการไม่เก็บเงิน แต่กรณีที่เกิดขึ้นพนักงานของร้านได้แจ้งให้ทราบรายละเอียดและบอกไว้ก่อนแล้วว่าสีผมจะไม่ได้ตามภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะสภาพผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อได้แชร์ประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการร้านทำผมหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ทราบว่ามีหลายร้านที่เจอลูกค้าที่เข้าไปหวังทำฟรีด้วยการอ้างในลักษณะเดียวกันหลังจากทำผมเสร็จ มีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยร้านส่วนใหญ่ที่เจอแบบนี้ก็จะยอมไม่คิดเงิน เพราะลูกค้าขู่รีวิวในโลกโซเชียล ทำให้เป็นช่องทางทำผมฟรีของคนกลุ่มนี้ จึงอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย