รู้หรือไม่?? หากใช้ “เหรียญกษาปณ์” หรือ เหรียญบาท เหรียญห้า เหรียญสิบ จ่ายค่าของ ซื้อสินค้า ชำระหนี้ ใช้ได้ครั้งละไม่เกินกี่บาท?
เชื่อว่าเด็กไทยทุกคน ต้องเคยหลอดกระปุกออมสินตั้งแต่เด็ก เป็นการสอนออมเงินที่ใช้กันมานาน และหลายคนก็ยังคงใช้วิธีนี้ แม้ว่าจะโตแล้วก็ตามก็ยังใช้วิธีการหลอดประปุกในการเก็บออมเหรียญต่างๆ อย่ามองข้ามเงินเล็กๆน้อยๆไป หากเราเก็บไปเรื่อยๆ อาจกลายเป็นเงินก้อนใช้ซื้อของชิ้นใหญ่ได้เลย
แต่รู้หรือไม่ “เหรียญกษาปณ์” จะสามารถใช้เหรียญชำระหนี้ได้คราวละไม่เกินเท่าไร ทางเพจเฟซบุ๊ก สำนักงานกิจการยุติธรรม เผยว่า “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน” วันนี้แอดมาเป็นกลอนกันเลยทีเดียว การเก็บเงิน เก็บหอมรอมริบ เพื่อที่จะซื้อของให้ตัวเองเป็นเรื่องที่ดีนะ ว่าแต่ว่า ถ้าเราใช้แต่ “เหรียญ 1 บาท” อย่างเดียว ในการซื้อของแบบพวกโทรศัพท์มือถือจะทำได้มั๊ยนะ?
ไม่ได้นะจ๊ะ เพราะตามกฎหมายได้กำหนดให้เหรียญ 1 บาท ใช้ชำระหนี้ได้ในจำนวนคราวละไม่เกิน 500 บาท ถ้าจะซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีราคามากกว่า 500 บาท จึงไม่สามารถใช้เหรียญบาทอย่างเดียวไปซื้อได้นะ ยังมีเรื่องการชำระหนี้ด้วย “เหรียญกษาปณ์” เราต้องรู้อีกนะ ว่าจะสามารถใช้เหรียญชำระหนี้ได้คราวละไม่เกินเท่าไร?
- เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 10 บาท
- เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 2 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 1,000 บาท
ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการกำหนดจำนวนเหรียญที่ใช้ชำระแต่ละครั้งตามข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งหากมีการใช้เหรียญชำระหนี้ต่างๆ ในจำนวนที่เกินจากที่กฎหมายกำหนด ผู้รับมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย
ขอบคุณข้อมูล – สำนักงานกิจการยุติธรรม