Huawei กลับมาเปิดตัว Huawei MatePad 11.5 MattePaper Edition อย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยรอบนี้มาพร้อมกับหน้าจอขี้นชื่อกับ MattePaper ที่ดีเห็นแบบนี้แล้วันเป็นอย่างไร
รายละเอียดสเปก Huawei MatePad 11.5 MattePaper Edition
- ขนาดตัวเครื่อง 260.88 x 176.82 x 6.85 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 499 กรัม
- หน้าจอแบบ TFT-LCD ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2200 x 1440 พิกเซล (อัตราส่วน 3:2) อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz
- กระจกหน้าจอ : PaperMatte Display
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1
- กราฟิก : Adreno 644
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB
- หน่วยความจำขนาด 256 GB
- ความจำภายนอก : ใช้ระบบ Cloud Storage เท่านั้น (Huawei Cloud)
- กล้องหลัง 1 ตัว
- ประกอบด้วยกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล + Auto Focus
- วิดีโอ 1080p 30 FPS
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอแบบ FHD 30 FPS
- ลำโพง 4 ตัว, ไมโครโฟน 4 ตัว
- รองรับปลายปากกา M-Pencil 2nd Generation
- รองรับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
- รองรับ Bluetooth 5.1, Wi-Fi 6
- แบตเตอรี่: 7700 mAh
- รองรับชาร์จไว 22.5W SuperCharge
- พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB-C (USB 2.0)
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1
- สี Space Gray
เปิดกล่อง
- ตัวเครื่อง Huawei MatePad 11.5 นิ้ว Mattpaper Edition
- สายชาร์จไฟ USB-C to USB-A
- ปลั๊กชาร์จไฟกำลัง 5W
- คู่มือ / เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
- และมี Keyboard และ M-Pencil Gen 2
ดีไซน์ของ Huawei MatePad 11.5 Mattpaper Edition
Huawei MatePad 11.5 นิ้ว Matte Paper Edition ขนาดหน้าจอใหญ่อลังการงานสร้างด้วยกันจะมาพร้อมกับหน้าจอ 11.5 นิ้ว ด้วยสัดส่วนของหน้าจอเป็นแบบ 3:2 ช่วยทำให้เครื่องไม่ได้กว้างเกินไป แต่มีความสูงพอสมควรเลยครับ ความละเอียดสูงแต่พื้นที่หน้าจอ 86% กับ Refresh Rate 120Hz เลยครับ
ความแตกต่างจากรุ่นปกติที่เปิดตัวก่อนหน้านี้คงต้องยกให้จอแบบ Paper Matte Display โดยจอแบบนี้ไม่ได้เป็นฟิล์ม แต่มีการนำหน้าจอไปเคลือบด้วยเทคโนโลยีระดับ Nano โดย Huawei เคลมว่า จะสดแลงสะท้อนได้ 97% และยังมีความนุ่มนวลในการมอง ลดความเมื้อยล้าของดวงตา แต่ยังทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพอยู่ครับ
นอกนั้นก็ไม่ได้แตกต่างจาก Huawei MatePad 11.5 นิ้วที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ประกอบด้วย ด้านบนจะมีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ด้านล่างจะมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ พร้อมกับมี icon ไว้ตรงกลางเพิ่งแบบ Taskbar เป็นต้น
รอบตัวเครื่องจะเป็นแบบโลหะ ที่ดูดี แบ่งออกเป็นทั้งด้านบนและล่างจะมีลำโพง 2 ตัวแต่ด้านบนจะมาพร้อมกับ Power และยังมีด้านล่างมีช่องเสียบ USB-C และตัวนี้บางกว่า 6.85 มิลลิเมตร
ขอบด้านบนจะมีปุ่มปรับระดับเสียงและมีไมโครโฟน แต่ว่าไม่สามารถชาร์จไฟกับ Huawei M-Pencil 2 ด้วยกัน
ขอบด้านล่างจะมีออกแบบ ให้มีช่องเสียบกับ Huawei Smart Keyboard
พลิกมาด้านหลังจะมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ความรู้สึกหลังได้สัมผัส
ถึงแม้ว่าตัวนั้นจะใหญ่แต่ว่า Huawei ก็ยังรักษาจุดเด่นของ Tablet รุ่นนี้ด้วยขนาดบอดี้ที่กระชับและบางทำให้น้ำหนักตัวเครื่องเหลือ 499 กรัม (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม) ทำให้พกพาได้ง่าย และเมื่อติดอุปกรณ์เสริมก็หนักกว่ากันไม่มากเท่าไหร่
การแสดงผล / ระบบเสียง
กับหน้าจอแบบด้าน PaperMatte ช่วยให้การแสดงผลเมื่อเจอกับสภาพแวดล้อมดีกว่าติดฟิล์มทั่วไปเยอะพอสมควรอ่านหนังสือแล้วสบลายตากว่าค่อนข้างมาก และที่สำคัญแอบทนกว่าจอปกติ เพราะจากที่ได้วาดเขียนด้วย Huawei M-Pencil 2 พบว่าหน้าจอแทบไม่เป็นรอยได้ง่าย
ส่วนระบบเสียงยังคงได้ลำโพง 4 ตัวด้วยให้เสียงที่ดังมากพอสมควร พร้อมกับเทคโนโลยี Histen 8.0 ให้เสียงที่ครบเครื่องปรับรูปแบบเสียงให้เหมาะสมได้ นอกจากนี้ระหว่างการสนทนาสามารถมี AI Noise Canceling ทำให้เสียงรบกวนลดลงช่วยจัดการเสียงได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน
ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม / การเชื่อมต่อ
อีกสิ่งที่ Tablet รุ่นนี้ไม่ได้ทิ้งก็คือ ประสิทธิภาพเพราะยังใช้ Snapdragon 7 Gen 1 ที่เรียกว่าผลการทดสอบที่ทำได้นั้นคะแนนถือว่าทำได้โดดเด่นการเล่นเกมเลยไม่ได้เป็นห่วงแต่อย่างใด ดังนั้นการทำงานแบบหลากหลายทั้งรูปแบบแบบเดียวหรือ Multi-Tasking ยังไงก็รองรับได้ดีเลยครับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับตัวช่วยในการเล่นเกมได้ทั้งเคลียร์ความจำ และยังมาพร้อมกับการเปิดโปรแกรมขนาดเล็กและยังสามารถเชื่อมต่อกับหน้าจอกับ Huawei Account ได้ด้วย
ส่วนการเชื่อมต่อต่างๆ ยังมาครบเหมือนเดิมตั้งแต่ รองรับ Wi-Fi 6 (AX), Bluetooth 5.2 รองรับทั้ง A2DP และ LE นอกจากนี้ GPS มาแบบครบๆ แต่ว่าช่องเสียบ USB-C มาตรฐาน 2.0 รองรับ OTG ผ่าน Flash Drive ได้ แต่ต่อออกหน้าจอแบบสายไม่ได้
การใช้พลังงาน
ยังคงให้ ขนาดแบตเตอรี่ 7700 mAh มีการเคลมว่าใช้งานได้นานสูงสุด 10.5 ชั่วโมง หรือจะใช้ประชุมออนไลน์สามารถใช้ได้นานสุด 6.3 ชั่วโมง และปล่อยเฉยๆ ยังอยู่ได้สูงสุด 900 ชั่วโมง!!! ถือว่าทำงานได้สบายๆ จากการใช้งานใช้คำว่า อึดถึกทนทานมากเลยครับ
และยังรองรับกำลังชาร์จไฟอยู่ที่ 22.5W แต่เสียบที่ชาร์จปกติจะได้กำลัง 18W
ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ชวนใช้งาน / ระบบความปลอดภัย
สำหรับระบบปฏิบัติการของ Huawei MatePad 11.5 Matte Paper Edition มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Harmony OS 3.1 มีจุดเด่นที่สามารถทำงานได้หลากหลายเช่น ปรับแต่ง Widget ที่ง่ายและยังสามารถเลือกทั้งขนาดเล็กและใหญ่ แถมยังสามารถมอบประสบการณ์ใช้งาน PC บน Tablet ผ่าน App Multiplier
โดยคุณสามารถเปิด Application ทั้งการทำงานและอื่นๆ เช่นการช้อปปิง หรือการดูวิดีโอคลิปสามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน แถมยังปรับแต่ได้อิสระอย่างมาก เปิดได้พร้อมกันทั้งหมด 4 หน้าจอในเวลาเดียวกัน
แถมยังมีโปรแกรมเช่น Huawei Note
โปรแกรมจดบันทึกแบบใหม่ สามารถที่จะใช้งานกับ M-Pencil รุ่นที่ 2 สามารถใช้เขียนรายละเอียดได้อย่างดีและยังสามารถใช้การแตะที่ปากกาเพื่อเปลี่ยนระหว่างการเขียนและการใช้ยางลบได้ แถมยังสามารถทำได้ตั้งแต่ การทำเป็นสมุดโน้ต, การเขียนเป็นเส้น หรือจะลากภาพเข้า Gallery ไปวางใน Note ได้ รวมถึงการเปิดอ่าน File PDF ที่สามารถกดเข้าอ่านหรือบันทึกเลือกเป็น PDF ได้ด้วย แต่ถ้าใครไม่ถนัด ก็ยังมี Notepad ปกติมาให้แต่ถ้าแนะนำจริงๆ อยากให้ใช้งาน Huawei Note จะดีกว่า
นอกจากนี้ใครกลัวว่าจะทำงานไม่ได้ ก็ขอแนะนำทั้ง WPS โปรแกรมออฟฟิศแบบฟรี ที่สามารถทำงานได้จริงบนเครื่องนี้ และ Microsoft Office 365 ก็มีให้บริการเหมือนกันครับ
ยังไม่หมดเท่านี้เพราะ Huawei MatePad 11.5 นิ้วยังรองรับ Super Device ต่อเชื่อมอุปกรณ์ Huawei ได้แบบคล่องตัวอย่างมาก เช่นการต่อออกหน้าจอ Huawei MateView เป็นต้น
ส่วนการใช้งาน Application สามารถติดตั้งได้ทั้ง Huawei AppGallery และมีอีกหลากหลายช่องทางที่สามารถติดตั้งได้ผ่านทาง APK ด้วยกัน
กล้องของ Huawei MatePad 11.5 Matte Paper Edition
ลูกเล่นของกล้องนั้นไม่ได้ต่างจาก Tablet ของค่ายนี้ที่มีโหมดถ่ายภาพนิ่ง, วิดีโอ, Beauty Mode ส่วนลูกเล่นอื่นๆ จะใช้งานได้กับกล้องหลังโดยแบ่งเป็นการถ่ายภาพ Panorama, Time-Lapse, Sticker และการถ่ายเอกสาร ผลงานของกล้องรุ่นนี้ดูที่ Gallery ด้านล่างได้เลย
สรุปหลังทดลองใช้ Huawei MatePad 11.5 Matte Paper Edition มาสักพักหนึ่ง
จริงๆ แล้ว Huawei MatePad 11.5 Mattpaper Edition คือการปรับหน้าจอใหม่ให้ลบดการสะท้อแสง และสามารถใช้งานเกี่ยวกับการวาดเขียนได้ดีมากขึ้น และยังสู้แสงได้ดี ไม่ต้องติดฟิล์มกันรอยก็ใช้ดีในราคาที่เรียกว่าไม่ได้แรงอย่างที่คิด
ราคาของ Huawei MatePad 11.5 Mattpaper Edition
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 14,990 บาท โดยเปิดให้ซื้อตั้งแต่ 4 เมษายน – 25 เมษายน นี้รับของแถมตั้งแต่
- Smart Keyboard
- Huawei M Pencil 2
- กล่องเก็บของมูลค่า 1,990 บาท
- บริการครวจวัดสายตา 300 บาท และ กรอบแว่น + เลนส์มัลติโค๊ต 3,990 บาท จากร้าน The Next
จุดเด่น
- ของแถมมาจัดเต็ม
- สเปกดีใช้ลื่น
- อัตราส่วนเหมือน Notebook
- ตัวเครื่องบางและน้ำหนักไม่มากนัก
ข้อสังเกต
- ยังคงไม่เป็นมิตรกับคนใช้ Google อยู่ดี
- ถ้าคุณไม่ชอบจอด้านอาจจะไม่เหมาะกับรุ่นนี้