กลับมาพบกับรีวิว Gadget จาก Sanook Hitech อีกครั้งหนึ่งในรอบนี้สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคสที่รอคอยกล้องสายเที่ยวตัวเล็กอย่าง GoPro ซึ่งตอนนี้เดินทางถึงกล้องรุ่นที่ 10 (หรือ GoPro Hero 10 Black) เรามาดูว่ามันจะน่าใช้แค่ไหน
เปิดกล่อง GoPro Hero 10
เนื่องจาก GoPro ต้องการลดจำนวนพลาสติกลงทำให้ทุกอย่างถูกใส่กระเป๋ามา โดยกระเป๋ามีจุดเด่นคือใส่อุปกรณ์เสริมได้ตามภาพที่เห็น แต่ความจริงสิ่งที่กล่องรุ่นนี้จะให้มาตั้งแต่แรกมีเพียง
- ขาสำหรับล็อคติดกับพื้นผิว 2 ชิ้น
- สายชาร์จ USB-C
- แบตเตอรี่
- ตัวกล้อง GoPro Hero 10 Black
รูปลักษณ์ดีไซน์ของ GoPro Hero 10 Black
เริ่มดันกับด้านหน้าจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.56 นิ้วเล็กจิ๋วไม่รองรับ Touch Screen สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ แต่ที่ติดเป็นแบบ Hydrophobic ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำเกาะหน้าเลนส์โดยเฉพาะ พร้อมกับเลนส์ด้านหน้าที่มุมกว้างและสามารถถอดฝาเพี่อใส่ Mods Max ให้มุมมองกว้างมากขึ้น และด้านหน้าจะมีลำโพงตัวเครื่องและโลโก้ของ GoPro สีฟ้า
ส่วนบนจะมีปุ่ม Quick Quik สามารถถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็ว โดยค่าเริ่มต้นสามารถตั้งค่าได้ โดยโรงงานตั้งเป็นการถ่ายวิดีโอในแบบปกติ และปุ่มนี้ถ้าเปิดกล้องแล้วจะเป็นปุ่มบันทึกภาพ พร้อมกับไมโครโฟนตัวเครื่อง
ส่วนล่างจะมาพร้อมก้านล็อคในแบบสไตล์ GoPro เพราะรุ่นนี้ออกแบบให้กันน้ำทันที โดยรองรับความลึกถึง 10 เมตร แบบไม่ใส่ Housing แต่ถ้าใส่ Housing ก็จะทำได้มากกว่านั้นครับ
ด้านข้างนั้นแบ่งเป็นฝั่งซ้ายเป็นปุ่มสำหรับเปิด / ปิด และเปลี่ยนโหมดได้ พร้อมกับช่องระบายน้ำ ห้ามแกะเด็ดขาด และมีโลโก้ 10 Black บอกว่ารุ่นอะไร
ด้านข้างขวามีฝาปิดที่พูดเลยว่า แน่นกว่าเดิม และภายในใช้แบตเตอรี่ขนาด 1720 mAh รองรับ Micro SD และ USB-C
ด้านหลังจะมีหน้าจอแบบ Touch Screen แสดงผลได้ชัดเจน และสามารถทำงานได้ในระบบ Touch Screen แม้นิ้วเปียกก็สามารถทัชได้อยู่ครับ
นอกจากนี้ GoPro ยังมี Mods ให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น Media Mods และอื่นๆ อีกมากมาย
ภาพรวมของการออกแบบ
GoPro Hero 10 เป็นกล้องที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจาก Hero 9 Black หากคุณย้อนกลับไปดูในรีวิวตรงนี้ แต่ความจริงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ จะต่างกัน 2 จุดคือ สีโลโก้ และ ฝาปิดแบตเตอรี่แน่นกว่าเดิม ข้อดีคือกันน้ำได้ดีกว่าเดิม แต่แกะยากกว่าเดิมหน่อยนึงครับ
เปิดกล้องทดลองใช้งาน GoPro Hero 10
เชื่อมต่อครั้งแรก และ โปรแกรม Quik
การใช้งานครั้งแรกสำหรับ GoPro Hero 10 จะต้องมีการเชื่อมต่อกับมือถือ โดยโปรแกรม Quik By GoPro เพื่อทำความรู้จักก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งหมด
โดย โปรแกรม Quik นั้นจะสามารถควบคุมกล้องได้ทั้งหมดตั้งแต่ การตั้งค่า, สั่งเปิด / ปิด กล้อง, นำภาพ / คลิป ออกจากกล้อง รวมไปถึงสามารถตัดต่อได้ระดับหนึ่ง แล Update Firmware ได้ด้วย
Interface ของ GoPro Hero 10 Black
สำรหับการสั่งงานของ GoPro Hero 10 Black ไม่ได้แตกต่างจาก Hero 9 Black เพราะยงัคง ยังคงใช้นิ้วปัดหน้าจอผ่าน Interface ที่ใช้งานง่ายเช่น
- ปัดซ้ายหรือขวา คือการเลือกโหมดการถ่ายภาพ
- ปัดบนลงล่างคือ Setting ของกล้องที่ตั้งค่าได้หมดตั้งแต่คำสั่งเสียง, ปิดหน้าจอด้านหน้า กำหนด Grip เปลี่ยนเลนส์ Max เสียงปุ่ม และรวมถึงการเข้าไปตั้งค่า ภาษาและการเชื่อมต่อกับกล้องและมือถือ
- ปัดล่างขึ้นบน จะเป็นการดูผลงานที่เราถ่ายมาก่อนหน้านี้ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ภายในสามารถ Crop วิดีโอได้
นอกจากนี้เราสามารถปรับแต่ง หน้าจอข้างนอกได้ทั้งหมด 4 แบบได้แก่ ปิดไปเลย, เปิดแค่ตัวเลขของภาพ, เปิดหน้าจอแสดงเต็ม และ เปิดหน้าจอแบบ 16:9 ได้เป็นต้น แต่ถ้าคิดว่าหมดแล้ว ยังครับ การทำงานของชิป GP2 ทำให้การทำงานของกล้องนั้นทำได้รวดเร็วมากขึ้น ลดอาการหน่วงแทบจะหมดสิ้นลงไปได้เยอะพอสมควร และมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ในการถ่ายภาพเช่นเดียวกัน
สิ่งใหม่ที่ได้พบใน GoPro Hero 10 Black
พูดถึงเรื่องภาพรวมฟีเจอร์และการแตะสั่งงานแล้ว หลายคนก็คงสงสัยว่ากล้อง GoPro Hero 10 Black จะมีลูกเล่นอะไรใหม่ที่แตกต่างจากเดิมเยอะแค่ เรามาเริ่มจาก
GP2 Processor
การทำงานของกล้องนั้นมีการพัฒนาใหฟ้ระบบกันภาพทำงานได้นิ่งขึ้นหรือ HyperSmooth 4.0 และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงถึง 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที วิดีโอความละเอียด 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และวิดีโอ 2.7K ที่ 240 เฟรมต่อวินาที ความละเอียดเพิ่มเป็น 23 ล้านพิกเซล และถ่ายวิดีโอที่แสงน้อยดีกว่าเดิม และถ่าย Slowmotion ได้ Smooth กว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง อัลกอริธึมสำหรับโหมดวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอีกด้วย เช่น Local Tone Mapping (LTM) และ 3D Noise reduction (3DNR)
การเชื่อมต่อกับ Cloud Storage
GoPro Hero 10 Black รองรับการเชื่อมต่อกับ Cloud เพียงแค่เสียบ USB-C เข้ากับคอมพิวเตอร์ทำให้เก็บภาพและวิดีโอได้ทันที แต่คุณต้องสมัครบริการ GoPro Premium ก่อน ปีละ 329 บาท เท่านั้น พื้นที่ไม่จำกัด
และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ดังนี้
- Horizon Leveling ที่ทำงานได้เนีบยเบนกว่าเดิม โดยเพิ่มองศาเป็น 45 องศากว่าจะมีการเปลี่ยนมุมอง
- TimeWarp 3.0 ที่รองรับการถ่ายแบบ Real Speed และ Half Speed
- Livestream (ถ่ายทอดสด) ด้วยความคมชัดระดับ 1080p พร้อมรองรับระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0 โหมดเว็บแคมความคมชัด 1080p
ภาพที่ได้จาก GoPro Hero 10 Black
แบตเตอรี่ / การชาร์จไฟ
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ของ GoPro Hero 10 Black ได้ขนาดเท่ากับ Hero 9 Black นั่นคือ 1720 mAh แต่ด้วยชิปใหม่ทีทำให้การทำงานของเครื่องนั้นสามารถทำงานได้นานมากขึ้น ซึ่งพบว่าเมื่อชาร์จไฟเต็ม สามารถถ่ายภาพได้ระดับหลักร้อยภาพได้สบาย, ถ่ายวิดีโอได้สัก 40 นาที แต่ขึ้นอยู่กับรูปแบบการถ่ายวิดีโอด้วย
คำแนะนำถ่ายมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi พบว่าจะกินไฟเยอะอยู่ ถ้าเปิด Wi-Fi หรือเลือกการแสดงผลหน้าจอภาพเป็นตัวเลข ก็จะเพิ่มการใช้งานได้นานมากขึ้น และอยู่รอดวันนึงพอไหว แต่ยังคงแนะนำว่า ควรมีแบตเตอรี่ 2 ก้อนถ้าต้องถ่ายแบบยาวๆ
ส่วนการชาร์จไฟจะรองรับแบบ USB-C และรอบนี้สามารถต่อเชื่อมกับระบบ Cloud ในการจัดเก็บข้อมูลไร้สายได้ หากสมัครบริการ GoPro Quik Premium จะได้พื้นที่ฟรีไม่จำกัด โดยมีราคาอยู่ที่ 329 บาทต่อปี
สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลองใช้งาน GoPro Hero 10 Black
แม้ว่า GoPro Hero 10 Black จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงดีไซน์อะไรเลยจากรุ่นที่ผ่านมาแต่ก็เป็นการปรับโฉมที่น่าสนใจไม่เบาเลยครับ โดยจุดเด่นคือมันทำงานได้เร็วมากขึ้น กันสั่นทำงานดีขึ้น และเชื่อมต่อกับระบบ Cloud Storage ถือว่าคุ้มพอสมควร
และเรื่องจากราคาของ GoPro Hero 10 Black นั้นอยู่ที่ 16,500 บาท เมื่อเทียบกับ GoPro Hero 9 Black มีราคาที่ 13,500 บาท คงต้องชั่งใจว่าเมื่อของใหม่ทำงานเร็วกว่า กันสั่นดีกว่า แบบนี้ตัวเดิมจะน่าใช้อยู่ไหม แต่ประหยัดลงไปได้เยอะก็ไว้ซื้อการ์ดความจำได้ แต่ถ้าคุณใช้งานประจำอยู่แล้ว แนะนำว่าการลงทุน 16,500 บาท ถือว่าเหมาะสมแล้วครับ
และนี่ก็เป็นอีกกล้องที่ช่วยบันทึกความทรงจำดีๆ ระหว่างทางได้เช่นเคย ที่ยังไม่มีใครมาอาจแทนมันได้ลง
จุดเด่น
- การทำงานของกล้องไวมากขึ้น
- ดีไซน์จับกระชับและพร้อมติตกับอุปกรณ์เสริม
- รองรับฟีเจอร์ Horizon Leveling เหมือนเดิม
- กันสั่นดีขึ้นกว่าเดิมและรองรับความละเอียดเพิ่มขึ้น
- รองรับการเชื่อมต่อกับ Cloud Storage ได้แค่เสียบชาร์จ
- บริการ Premium แค่ได้พื้นที่เก็บภาพไม่จำกัด ก็คุ้มแล้ว
ข้อสังเกต
- ความแตกต่างของลูกเล่นระหว่างรุ่นที่แล้วน้อยมาก หากไม่ได้ใช้ความละเอียด 5K
- แบตเตอรี่หมดไวเหมือนเดิม
- ฝาเปิดแบตเตอรี่แกะยากเพราะล็อค 2 ชั้น
- ราคาสูงกว่าเดิมพอสมควร