รวบสาวอินโดฯ คลุมศีรษะปืนจี้รปภ.บุกทำเนียบประธานาธิบดี
รวบสาวอินโดฯ – วันที่ 25 ต.ค. เอพีรายงานว่า เหตุระทึกขวัญที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หลังมีหญิงใส่ชุดคลุมพร้อมผ้าคลุมศีรษะพยายามใช้อาวุธปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อบุกเข้าไปภายในตัวอาคารแต่ไม่สำเร็จและถูกจับกุมไว้ได้
เหตุเริ่มขึ้นหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทำเนียบประธานาธิบดีพบเห็นหญิงในชุดคลุมยืนอยู่ที่บริเวณรั้วประตูทางเข้า โดยหญิงคนดังกล่าวมีท่าทางพิรุธจึงเดินเข้าไปเพื่อสอบถามและขอตรวจสอบ แต่ถูกหญิงคนดังกล่าวชักอาวุธปืนเล็งใส่จึงเกิดการยื้อแย่งอาวุธกันขึ้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถแย่งอาวุธปืนมาได้สำเร็จทำให้หญิงผู้ก่อเหตุพยายามวิ่งหนีออกจากบริเวณดังกล่าวแต่ถูกเจ้าหน้าที่วิทยุช่วยกันจับกุมไว้ได้สำเร็จ พร้อมอายัดกระเป๋าสะพายข้างไว้เป็นหลักฐาน ภายในพบพระคัมภีร์ และกระเป๋าเงินสีชมพูเปล่า ไม่มีเงิน ไม่มีบัตรใดๆ
นายเอ็นดรา ซุลปัน โฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนหญิงผู้ก่อเหตุ และยังไม่ตัดประเด็นเรื่องความเกี่ยวโยงกับกลุ่มติดอาวุธออก
รายงานระบุว่า อินโดนีเซียกำลังเผชิญกับปัญหากองกำลังติดอาวุธตั้งแต่เหตุก่อโจมตีสถานบันเทิงบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2545 มีผู้เสียชีวิต 202 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เป็นฝีมือของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือเจไอ
โดยภัยคุกคามดังกล่าวกลายเป็นการโจมตีขนาดย่อมมีเป้าหมายเป็นบุคคลสำคัญและหน่วยงานภาครัฐ เช่น หน่วยต่อต้านก่อการร้าย ตำรวจ และกลุ่มบุคคลที่ถูกหมายหัวว่าเป็นพวกนอกรีต
คดีลักษณะนี้ผู้กระทำผิดต้องเผชิญกับโทษร้ายแรง อาทิ หญิงใส่ชุมคลุมสีดำที่วางแผนจะก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดพลีชีพนอกทำเนียบประธานาธิบดีถูกพิพากษาจำคุก 7 ปีครึ่ง เมื่อปี 2559
ต่อด้วยเหตุคนร้ายบุกกราดยิงต่อสู้กับตำรวจที่สำนักงานตำรวจนครบาลกรุงจาการ์ตา ก่อจะถูกเจ้าหน้าที่รุมวิสามัญ เมื่อเดือนมี.ค. 2564
เหตุล่าสุดยังเกิดขึ้นต่อจากคนร้าย 2 คน ที่เป็นสามีภรรยากันและมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มติดอาวุธ ก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดหม้ออัดความดันที่อาสนวิหารพระหฤทัย ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ที่เมืองมากัซซาร์ เขตเทศบาลจังหวัดสุลาเวสีใต้ มีผู้บาดเจ็บ 20 คน เมื่อไม่กี่วันก่อน