ย้อนฟัง “นารา เครปกะเทย” เคยพูดไว้ ในรายการ “ไหนเล่าสิ” ของ นัท นิศามณี ประสบการณ์หมุนเงินไม่ทัน จนต้องทำวิธีนี้! ชาวเน็ตจวกเละ ทำจนเป็นนิสัย

เป็นดราม่าต่อเนื่องไม่พัก สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง “นารา เครปกะเทย” หรือ อนิวัต ประทุมถิ่น กับ ประเด็น “กล่องสุ่ม” ซึ่งเหล่าผู้ลงทุนได้รับความเสียหายนับล้านบาท แต่ไม่ได้รับเงินทุนคืน เมื่อทวงถามก็ถูกตอบกลับ ไล่ให้ไปฟ้องเอา

• เหยื่อเปิดใจ ดราม่ากล่องสุ่ม ‘นารา เครปกะเทย’ เสียหายครึ่งล้าน โดนไล่ไปฟ้องเอา
• ‘นารา เครปกะเทย’ แจงไม่โกง เร่งทยอยใช้หนี้กล่องสุ่มทุกบาท ยันมีความรับผิดชอบ
• อินบ็อกซ์แตก เหยื่อพุ่งกว่า 2 พัน กล่องสุ่ม นารา เครปกะเทย คาดจุดจบเหมือน 2 บุฟเฟต์ดัง

ล่าสุด ก็มีเพจชื่อดังเพจหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ภาพจากคลิปวีดีโอ ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลก TIKTOK ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นคลิปวีดีโอส่วนหนึ่งจากรายการ “ไหนเล่าสิ Ep.4 | แขกรับเชิญ นารา เครปกะเทย | เรื่องเล่าสารภาพกับแฟนว่าแม่เป็นHIV!!!”

ภาพประกอบ

โดยเพจดังกล่าว ได้เขียนแคปชั่นโพสต์ว่า

“ไถฟีด TIKTOK ไปเจอคลิปเก่าคลิปหนึ่ง ที่นารา เครปกะเทย พูดถึงวิธีการหาเงินสมัยก่อนของตน

‘เวลาไปไลฟ์สดขายของเราก็เอาของไปขาย พอมีคน CF เราก็ยังไม่ส่ง เพราะเราต้องเอาของมาไลฟ์วันถัดไป และถ้ามีคน CF ของเราวันนั้น เราก็จะไปบอกคนก่อนหน้านี้ว่า ส่งของไม่ได้ และเดี๋ยวโอนเงินคืนให้’

(คล้ายประมาณว่า เอาเงินเขามาหมุนแบบบ่เสียดอก) อ่อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง”

ซึ่งในคลิปวีดีโอดังกล่าว นาราก็ได้เล่าชีวิตตนเองว่า ตนเองนั้นอยากมีเงิน มีทอง มีรถ มีของใช้เหมือนกับเพื่อนๆ จึงตัดสินใจเล่นแชร์หลักหมื่น หลายๆวง เพื่อให้ได้เงินหลักแสน ทำให้ต้องหาเงินมาหมุนเวียน เพื่อโปะค่าแชร์แต่ละวง

เจ้าตัวเล่าในรายการว่า ตนเองได้เข้าไปในกลุ่มขายเสื้อผ้าชื่อดังกลุ่มหนึ่ง แล้วโพสต์ขายของในกลุ่มดังกล่าว เมื่อลูกค้ากด CF ซื้อสินค้า พร้อมทั้งโอนเงินเรียบร้อย ตนจะนำเงินไปส่งค่าแชร์แต่ไม่ส่งของ

โดยบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจจะโกง แต่ตั้งใจจะนำสินค้าเหล่านี้ไปโชว์เพื่อไลฟ์สดขายอีกวัน เมื่อลูกค้าวันถัดไปซื้อ ขายได้เงิน ก็จะนำเงินไปโอนคืนลูกค้ากลุ่มแรก และแจ้งว่า ไม่สามารถส่งสินค้าได้ เป็นการหมุนเงิน ซื้อเวลา เพื่อที่จะหาเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปจ่ายค่าแชร์

ด้านชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ต่างคอมเมนต์ “เหลี่ยมจัด” “ศรีธนญชัย” “ขอบคุณนารา ที่มาแฉนาราให้ฟัง” “มันเป็นสันดาน” และอีกหลายคนที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า เคยเจอประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน

เรียกว่าเป็นดราม่าร้อนสุดๆในตอนนี้ ซึ่งเรื่องราวจะไปจบที่ตรงไหน และบทสรุปจะเป็นอย่างไร คงต้องรอติดตามกัน