ยูซีไอ หรือ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ ประเมิน สองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ว่าเป็นการแข่งขันที่มาตรฐานดีเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน

ยูซีไอ หรือ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ โดย คาเรน โอคัลลาแฮน หัวหน้าผู้ตัดสินของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ประเมิน สองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ว่าเป็นการแข่งขันที่มาตรฐานดีเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน แสดงถึงความพร้อมของคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ที่มีการวางแผนการทำงานล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดี

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯเผยว่า สหพันธ์จักรยานนานาชาติ จัดส่งผลการประเมินการจัดจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” และจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ระหว่าง 1-10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมี คาเรน โอคัลลาแฮน ผู้ตัดสินอาวุโสประสบการณ์สูงชาวออสเตรเลียเป็นผู้ประเมิน

โดยการประเมินจากรายงานของคาเรน ระบุว่าการแข่งขันทั้ง “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” และ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” มีมาตรฐานการจัดการแข่งขันดีเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางเส้นทาง การจัดโรงแรมที่พักและอาหารสำหรับนักกีฬาต่างชาติ แสดงถึงการเตรียมความพร้อมของคณะกรรมการจัดการแข่งขันมีการวางแผนและประสานงานล่วงหน้าไว้เป็นอย่างดีทำให้กระบวนการทำงานระหว่างการแข่งขันราบรื่น

พลเอกเดชา กล่าวว่า นอกเหนือจากเรื่องการเตรียมความพร้อมแล้ว คาเรน โอคัลลาแฮน ยังได้ชื่นชมมาตรการรักษาความปลอดภัยระหว่างเส้นทาง ซึ่งทางสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสามจังหวัดพื้นที่ ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ไปจนถึงเจ้าหน้าที่ อปพร. ทำให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัยสูง เป็นที่พอใจของนักกีฬาต่างชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน

ซึ่งมาตรการความปลอดภัยระหว่างการแข่งขันเป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ทางสหพันธ์จักรยานนานาชาติ ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ อีกประเด็นที่ มิสคาเรน ชื่นชมคือมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งทางฝ่ายจัดเตรียมเจ้าหน้าที่การแพทย์ ทั้งของสมาคม และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่น ที่ร่วมกันจัดการสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้องปฐมพยาบาลในโรงแรมที่พัก หรือการจัดรถพยาบาลและบุคลากรการแพทย์ร่วมเดินทางไปในระหว่างแข่งขัน ไปจนถึงการจัดมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

นายกสองล้อไทย กล่าวต่ออีกว่า “อย่างไรก็ตามในการประเมินของคาเรน โอคัลลาแฮน ยังมีจุดบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะต้องนำไปแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเส้นทางการแข่งขันที่ยังขาดรายละเอียดปลีกย่อยบางประการ รวมถึงการจัดส่งรายละเอียดต่าง ๆ ไปยังทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ตลอดจนผู้ตัดสินนานาชาติที่จะเข้าทำหน้าที่ในการแข่งขันให้เร็วกว่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางสมาคมโดยฝ่ายเทคนิคจะรับไปดำเนินการแก้ไขในการจัดการแข่งขันปีต่อ ๆ ไป”

นอกจากนี้ พลเอกเดชา เผยอีกว่า สำหรับจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” กำหนดจัดแข่งขันระหว่าง 1-10 เม.ย.66 เส้นทางจากภาคตะวันตกไปสู่ภาคตะวันออก เริ่มต้นจากจังหวัดกาญจนบุรี ไปสิ้นสุดที่จังหวัดระยอง

ประเภททีมชายแข่งขัน 6 สเตจ ระหว่างวันที่ 1-6 เม.ย.66 ระยะทางรวม 1,174 กิโลเมตร สเตจที่ 1 วันที่ 1 เม.ย. เส้นทางในจังหวัดกาญจนบุรี เริ่มจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว-ไปปราสาทเมืองสิงห์-อำเภอไทรโยค-กลับมาเข้าเส้นชัยที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ระยะทาง 183 กิโลเมตร

สเตจที่ 2 วันที่ 2 เม.ย. เริ่มจากเริ่มจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว-ผ่านอำเภอพนมทวน-เข้าอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี-ผ่านทุ่งมะขามหย่อง-ไปเข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 217 กิโลเมตร

สเตจที่ 3 วันที่ 3 เม.ย. เริ่มจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา -ผ่านอำเภอวังน้อย-เข้าอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี-ผ่านอำเภอมวกเหล็ก ไปเข้าเส้นชัยที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ระยะทาง 155 กิโลเมตร

สเตจที่ 4 วันที่ 4 เม.ย. เริ่มจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-ผ่านอำเภอวังน้ำเขียว-เข้าอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เข้าเส้นชัยที่อำเภออรัญประเทศ ระยะทาง 212 กิโลเมตร, สเตจที่ 5 วันที่ 5 เม.ย. เริ่มจากอำเภออรัญประเทศ เลียบชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี-ผ่านอำเภอโป่งน้ำร้อน ไปเข้าเส้นชัยที่จ.จันทบุรี ระยะทาง 186 กิโลเมตร

สเตจที่ 6 วันที่ 6 เม.ย. เริ่มจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-ผ่านอำเภอแหลมสิงห์-ผ่านจุดชมวิวเนินนางพญา อำเภอนายายอาม-ผ่านตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง-ผ่านอำเภอวังจันทร์ เข้าเส้นชัยที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร

ด้านประเภททีมหญิง แข่งขัน 3 เสตจ ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2566 ใช้เส้นทางในจังหวัดระยอง และจังหวัดจันทบุรี ซึ่งฝ่ายเทคนิคของสมาคมจะกำหนดเส้นทางแข่งขันในภายหลัง โดยเน้นเส้นทางที่สวยงาม ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ และการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้กีฬาจักรยานเป็นสื่อกลาง