ยุทธพงศ์ สอนมวย เร่งเจรจา ค่าไฟแพง 8 ปีเพราะเศรษฐกิจไม่โต ซัดประยุทธ์ หยุดโทษคนอื่น สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ เร่งแก้ความเดือดร้อนประชาชน
วันที่ 26 เม.ย.2566 นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ผู้สมัครส.ส.มหาสารคาม เขต 3 เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลและผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ชี้แจงค่าไฟฟ้าที่แพงทุกวันนี้ เกิดจากกำลังการผลิตส่วนเกิน ที่มีการทำสัญญาในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องรับผิดชอบกับสัญญาและกำลังการผลิตส่วนเกิน และเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ค่าไฟแพง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มองเห็นความผิดพลาดในการบริหารงานของตนเองเลย
ยิ่งเมื่อปรียบเทียบการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในช่วงปี 2554-2557 มีจีดีพี โตเฉลี่ยอยู่ที่ 4% และจากการคาดการณ์การเติบโตทางทางเศรษฐกิจในขณะนั้น จีดีพีน่าโตถึง 7% จึงจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีกำลังไฟฟ้าสำรองเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ขณะในช่วงปี 2557-2564 จีดีพีภายใต้การบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ มีค่าเฉลี่ยการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.4% จัดเป็นอันดับที่ 8 ของอาเซียน อ้างอิงจากกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร ตัวเลขการเติบโตเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความสามารถในการบริหารประเทศให้เศรษฐกิจเติบโต ดีแต่โทษคนอื่น ไม่เคยมองความผิดตน
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้ ด้านการบริหารยังไร้ประสิทธิ ละเลยและไม่ใส่ใจ ทั้งที่ผ่านมาสามารถเปิดช่องทางการเจรจาวางแผนปรับลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) ผ่านคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หรือเจรจากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้พิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่ กฟผ. แบกรับภาระไว้ในการชำระคืนผ่านค่าเอฟที จนวันนี้ภาระค่าไฟฟ้าตกอยู่ที่ประชาชน นอกจากไม่คิดจะเจรจาแก้ไขปัญหา ยังเดินหน้าก่อปัญหาใหม่
กพช.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ อดีตนายกฯ ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ โครงการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนลุ่มน้ำโขง 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนปากลาย เป็นเวลา 29 ปี และเขื่อนหลวงพระบาง เป็นเวลา 35 ปี ตามลำดับ และยังไม่นับรวมการรับซื้อไฟฟ้าก่อนหน้านี้ที่กำลังจะทยอยเข้าระบบสายส่งเพิ่ม ทั้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจากภาคตะวันออก โรงไฟฟ้าขยะ เป็นต้น ทั้งที่ไทยมีกำลังไฟฟ้าสำรองเหินกว่าความจำเป็นไปแล้ว
“8 ปีบริหารเศรษฐกิจไม่โต นั่งโทษแต่คนอื่น สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ แบบนี้เห็นที่ประเทศไทยน่าจะยังห่างไกลความเจริญ ถ้ามีผู้นำชื่อประยุทธ์” นายยุทธพงศ์ กล่าว