มินอ่องไหล่ถอย! ยอมให้ผู้แทนอาเซียนพบคนสนิทซูจี หลังถูกกดดันหนัก

มินอ่องไหล่ถอย! – วันที่ 7 ก.พ. เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่องไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่าในฐานะผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร ยินยอมให้ผู้แทนพิเศษของอาเซียนจากประเทศกัมพูชาเข้าพบนางออง ซาน ซูจี ที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีได้แล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างพล.อ.อาวุโสมิน กับนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีความใกล้ชิดกับบุคคลระดับสูงของพม่า เมื่อ 26 ม.ค. โดยกัมพูชาเพิ่งรับตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ต่อจากบรูไน

ความคืบหน้าล่าสุดถือเป็นความพยายามปลดล็อกทางตันของกระบวนการสันติภาพในพม่าหลังกองทัพพม่าก่อเหตุยึดอำนาจ เมื่อ 1ก.พ. โดยอ้างว่าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซูจี โกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬารทำให้พรรคฝ่ายทหารนั้นแพ้ถล่มทลาย

นายกาว กิม ฮูร์น รัฐมนตรีผู้แทนของนายกฯ กัมพูชา เปิดเผยว่า พล.อ.อาวุโสมิน ไม่ได้ระบุว่าบุคคลที่จะอนุญาตให้ผู้แทนพิเศษอาเซียนเข้าพบนั้นเป็นบุคคลใดจากพรรคเอ็นแอลดี (ที่ถูกยุบไปแล้ว) ของนางซูจี

พม่าตกอยู่ภายใต้สถานการณ์มิคสัญญีทางการเมืองและความรุนแรงบนท้องถนนจากการปราบปรามชาวพม่าที่ลุกขึ้นต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพตั้งแต่ 1 ก.พ. โดยข้อมูลจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1,500 ราย

ขณะที่อาเซียนซึ่งเป็นกลไกหลักที่ประชาคมโลกหวังพึ่งพานั้นประสบกับทางตันหลังการผู้แทนฝ่ายการเมืองของพม่าไม่ได้รับเชิญร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อปลายปี 2564 และล่าสุด การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ระหว่าง 16-17 ก.พ.นี้ ที่กรุงพนมเปญ

นายกาว กล่าวยอมรับว่า การเดินทางไปเยือนพม่าของนายปรัก สุคนน รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ในฐานะผู้แทนพิเศษอาเซียน มีโอกาสน้อยมากที่จะได้พบกับนางซูจี ซึ่งอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมอัตราโทษจำคุกกว่า 150 ปี

“เป้าหมายของเราคือการได้พบหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่อาจจะไม่สามารถทำได้ในการเยือนเพียงครั้งเดียว ดังนั้นก็อาจจะเป็นการเดินทางไปหลายครั้ง แต่คิดว่าถ้าได้พบพูดคุยกับนางซูจีด้วยก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง” นายกาว ระบุ

ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคระดับสูงและสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีของนางซูจีหลายคนถูกกองทัพพม่าเข้าควบคุมตัวไว้ตั้งแต่การยึดอำนาจ โดยนายเน โพน ลัต โฆษกพรรคเอ็นแอลดีที่ลี้ภัยหนีรอดเงื้อมมือกองทัพพม่ามาได้ ระบุว่า การพบหารือกันควรได้รับความยิมยอมจากพรรคก่อน