ภูสอยดาว ฉบับ 2 วัน 1 คืน ลุยป่าหน้าฝน พิชิตลานสนที่สูงที่สุดของเมืองไทย

Home » ภูสอยดาว ฉบับ 2 วัน 1 คืน ลุยป่าหน้าฝน พิชิตลานสนที่สูงที่สุดของเมืองไทย
ภูสอยดาว ฉบับ 2 วัน 1 คืน ลุยป่าหน้าฝน พิชิตลานสนที่สูงที่สุดของเมืองไทย

ถ้าหากพูดถึงเส้นทางเดินป่าในหน้าฝนของเมืองไทย ชื่อของภูสอยดาวมักจะเป็นชื่อแรกๆ ที่นักเดินทางนึกถึงเสมอ เสียงร่ำลือถึงความงดงามของธรรมชาติ เส้นทางเดินป่าที่อุดมสมบูรณ์ ดอกหงอนนาค และการกางเต็นท์ท่ามกลางลานสนที่โอบล้อมไว้ด้วยสายหมอก เป็นสิ่งที่เชิญชวนให้นักเดินทางทุกคนใฝ่ฝันที่จะขึ้นไปพิชิตภูสอยดาวให้ได้สักครั้ง และเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ตั้งเป้าว่าจะต้องไปสัมผัสกับความสวยงามของภูสอยดาวให้ได้เช่นกัน และในปีนี้การเดินทางของเราก็ได้เริ่มต้นขึ้นจริงๆ กับการเดินป่าในระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความประทับใจที่อยากจะนำมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองไปตามรอยกันครับ

line_album_30865_220830_9

line_album_30865_220830_16

line_album_30865_220830_2
line_album_30865_220830_36

การเดินทางสู่ภูสอยดาวนั้นอันดับแรกนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องลงทะเบียนจองการเข้าท่องเที่ยวกันก่อนผ่านทางแอปพลิเคชัน Queq จากนั้นจึงไปรายงานตัวที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยในแต่ละวันจะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้นภูสอยดาวเพียงวันละ 300 คนเท่านั้น จะไม่ได้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นเยอะเหมือนแต่ก่อน เพราะฉะนั้นหากมาเที่ยวภูสอยดาวในช่วงนี้คุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติแบบไม่แออัดแน่นอน

line_album_30865_220830_18

หลังจากลงทะเบียนและติดต่อเรื่องลูกหาบกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเริ่มเดิน โดยระยะทางจากที่ทำการอุทยานไปสู่ลานสนภูสอยดาวนั้นมีระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะทางค่อนข้างชันและลื่นมากในบางจุด โดยเราจะต้องเดินผ่าน 5 เนินอรหันต์ที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน

line_album_30865_220830_20
line_album_30865_220830_22
line_album_30865_220830_31

ทางเดินช่วงแรกๆ นั้นเหมือนเป็นการวอร์มขา ทางเดินมีชันสลับทางราบ เรียบผ่านน้ำตกภูสอยดาวไปในแต่ละชั้นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงจะมาถึงของจริงต่อจากนี้ นั่นก็คือเนินแรกที่เราจะได้เจอนั่นเองกับเนินส่งญาติ ที่มีทั้งทางเดินและขั้นบันไดให้เราไต่ขึ้นไป บอกเลยว่ามีแต่ชัน ชัน ชัน และชัน เล่นเอาเหนื่อยหอบกันแต่เริ่มเลย

line_album_30865_220830_86

line_album_30865_220830_19

นั่งพักกันสักครู่ก่อนจะไปต่อกันที่เนินปราบเซียน ซึ่งจะเป็นทางชันไกลกว่าเนินส่งญาติ บอกเลยว่าหากผ่านเนินนี้ไปได้คุณจะเข้าสู่ครึ่งทางของภูสอยดาวแล้ว แต่กว่าจะผ่านไปนั้นก็รากเลือดพอสมควรเลย

line_album_30865_220830_21

ต่อมากันที่เนินที่สาม เนินป่ากอ ซึ่งสำหรับเราคิดว่าเนินนี้เป็นเนินที่เดินสบายที่สุด เพราะมีทั้งราบค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับ 2 เนินที่ผ่านมา 

line_album_30865_220830_24

และเนินที่สี่ ที่แค่ได้ยินชื่อก็น่ากลัวแล้วกับเนินเสือโคร่ง เนินนี้บอกเลยว่าชันแบบไม่มีปราณี บางช่วงถึงขั้นตั้งใช้มือช่วยในการปีนขึ้นไปเลย แต่ดีหน่อยที่เนินนี้มีระยะทางที่สั้น จึงพอจะรวมแรงฮึบเดียวส่งตัวผ่านไปได้

line_album_30865_220830_25
line_album_30865_220830_26

และเนินสุดท้ายของวันนี้ซึ่งถือเป็นปราการด่านสุดท้ายของธรรมชาติที่จะพาเราไปสู่ความงดงามที่ปลายทาง นั่นก็คือเนินมรณะ แค่ฟังชื่อก็รู้แล้วว่าโหดแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เนินนี้มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นทางดินสูงชันสลับกับขั้นบันได ซึ่งประกอบกับการที่เราได้เดินใช้แรงผ่านมาแล้ว 4 เนินทำให้พอมาถึงเนินนี้ร่างกายก็เริ่มที่จะอ่อนล้ามากๆ กว่าจะผ่านไปแต่ละขั้น กว่าจะผ่านไปแต่ละโค้ง ทั้งร่างกายและจิตใจต่างอ่อนล้า แต่สิ่งที่พอจะช่วยทำให้ความเหนื่อยล้าพอทุเลาลงบ้าง ก็คงจะเป็นวิวสวยๆ ระหว่างที่ เวลาที่เราหยุดพักและหันหลังมองไปก็จะเห็นวิวภูเขาที่สลับซับซ้อนเขียวขจี เคล้าไปด้วยทะเลหมอกที่ลอยละล่องไปตามลม เป็นบรรยากาศที่งดงามจริงๆ 

line_album_30865_220830

line_album_30865_220830_30

line_album_30865_220830_10

line_album_30865_220830_32
line_album_30865_220830_33

และเมื่อผ่านจากเนินมรณะมาได้แล้ว ธรรมชาติก็มอบรางวัลให้กับผู้พิชิตในทันที ภาพของลานสนภูสอยดาวที่เราเคยเห็นแต่ในรูปภาพ ตอนนี้ได้อยู่ตรงหน้าเราแล้ว ป่าสนสองใบที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยสายหมอก เป็นบรรยากาศชวนฝันที่เหมือนกับหลุดไปในโลกแห่งเทพนิยายเลย

line_album_30865_220830_11
line_album_30865_220830_35
line_album_30865_220830_37

line_album_30865_220830_34
line_album_30865_220830_5

เมื่อมาถึงแล้วเราก็จัดการกางเต็นท์เตรียมพักผ่อนกันในลานสนคืนนี้ อากาศหนาวเย็น มีหมอกลอยล้อมตัวตลอดเวลา พร้อมกับได้พบกับดอกหงอนนาคสีม่วงสวยงามบริเวณที่พักของเราด้วย สวยงามประทับใจจริงๆ แต่เสียดายที่ในค่ำคืนนั้นเราไม่ได้พบกับดวงดาว เพราะฟ้าปิดหมอกลงจัด แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วต่อความทรงจำสำหรับภูสอยดาว

line_album_30865_220830_40
line_album_30865_220830_6

line_album_30865_220830_0

สำหรับการพักแรมบนลานสนภูสอยดาวนั้น ด้านบนไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้บริการ เวลาจะอาบน้ำเราต้องนำถังไปตักน้ำที่ลำธารหรือจากถังรองน้ำฝนเพื่อนำไปอาบ เพราะฉะนั้นหากใครจะมาที่นี่แล้วหวังเรื่องความสะดวกสบายขอให้คุณลืมไปได้เลย แต่ด้วยความลำบากนี้ก็ทำให้เราได้ฟีลของการเดินป่าอย่างแท้จริง และเป็นเสน่ห์ที่สำหรับเราแล้วชอบมากๆ เลย กับความดิบแบบนี้

img_0503

เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปชมวิวบริเวณหมุดเขตแดนไทยลาว ซึ่งจะเป็นบริเวณรอยต่อระหว่างเขตประเทศไทยและประเทศลาว บริเวณนี้จะเป็นป่าสนที่ค่อนข้างหนาแน่นอนกว่าตรงโซนกางเต็นท์ และก็เช่นเคยป่าสนถูกห้อมล้อมไปด้วยหมอกหนาสวยงาม

line_album_30865_220830_1
line_album_30865_220830_47

เมื่อเราเดินมาถึงบริเวณหมุดเขตแดน ก็ได้เวลาถ่ายภาพเก็บความประทับใจก่อนนะกลับ แต่ระหว่างนั้นเมื่อเราหันหลังกลับไปก็ต้องพบกับความมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติมอบให้กับเราในเช้าวันนี้

line_album_30865_220830_78

line_album_30865_220830_79
line_album_30865_220830_81

เมื่อสายหมอกที่เคยปกคลุมอยู่ดีๆ ก็เปิดออกเผยให้เห็นป่าสนที่สวยงามพร้อมวิวทิวเขาสูงที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า พร้อมกับมีสายหมอกลอยอยู่ระหว่างเขา เราไม่รอช้ารีบหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจแบบรัวๆ ถ่ายได้แบบไม่มีเบื่อเลย หลังจากได้เห็นภาพนี้เราบอกกับตัวเองเลยว่านี่คือวิวที่คุ้มค่าแล้วกับการที่เราดั้นด้นขึ้นมาถึงยอดภูสอยดาวแบบนี้ มันคุ้มค่ามาก เป็นรางวัลขอนักเดินทางอย่างแท้จริง

line_album_30865_220830_58

line_album_30865_220830_15
line_album_30865_220830_17
line_album_30865_220830_73

line_album_30865_220830_49
line_album_30865_220830_66

เมื่อดื่มด่ำกับความสวยงามของภูสอยดาวจนอิ่มเอมแล้ว ก็ได้เวลาแพ็คกระเป๋าเดินทางกลับ ในระหว่างทางลงนั้นเราเจอฝนตกตลอดทาง ทำให้เส้นทางในขาลงนั้นมีความลื่นกว่าตอนที่ขึ้นมา ต้องระวังเป็นอย่างมากในทุกย่างก้าว ระหว่างทางกลับเราได้แวะถ่ายรูปเล่นและเล่นน้ำที่น้ำตกภูสอยดาว เป็นความสดชื่นระหว่างทางเดินที่ยากลำบาก ที่ช่วยให้หายเหนื่อยได้จริงๆ 

line_album_30865_220830_82
line_album_30865_220830_83
line_album_30865_220830_84
line_album_30865_220830_88

จนแล้วจนรอดก็สามารถพาตัวเองกลับมาสู่ที่ทำการอุทยานได้อย่างปลอดภัย การเดินทางสู่ภูสอยดาวของเราในครั้งนี้ได้ถูกบันทึกลงในหนังสือแห่งการเดินทางของความทรงจำ เป็นช่วงเวลาที่เราได้สู้กับจิตใจและร่างกายของตัวเอง เพื่อพาร่างกายไปสัมผัสกับความงดงามด้านบน เป็นช่วงเวลาที่ธรรมชาติได้สอนเราหลายๆ อย่างในการเดินทาง กว่าจะได้ชมความสวยงามนั้นแลกมาด้วยความยากลำบาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็คือภาพความทรงจำที่สวยงามที่เราคงจะไม่ลืมไปอีกนาน

line_album_30865_220830_89

line_album_30865_220830_3
line_album_30865_220830_43

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่ตั้งภูสอยดาว : ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/TQRJ7YbZnKV8yc8r5

ติดต่ออุทยาน : 055-436 793

เวลาทำการ :  8.00 – 16.30 น. 

สนใจทริปเดินป่าติดต่อได้ที่ : Movepa

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ