จันทบุรี ชาวสวน เร่งหาแหล่งน้ำสำรองเก็บไว้ใช้ หลังระดับน้ำเริ่มลดลงน่าเป็นห่วง หวั่นเกิดภัยแล้งรุนแรง ทำผลผลิตใกล้เก็บเกี่ยวได้รับความเสียหาย “ยืนต้นแท้งลูกตายทั้งกลม”

20 มี.ค. 66 – ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพื้นที่ ต.อ่างคีรี อ.มะขาม จ.จันทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังได้รับการร้องทุกข์จากชาวสวนผลไม้ว่า ปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำที่มีอยู่ ตลอดจนแหล่งน้ำสาธารณะ เริ่มลดลงน่าเป็นห่วง หลังเข้าสู่หน้าแล้งได้ไม่นาน แต่เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงนานติดต่อกันหลายเดือน จนขณะนี้ต้องขวนขวายหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ แม้ว่าจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม

โดยที่สวนผลไม้พื้นที่หมู่ 3 ต.อ่างคีรี ของ นายรัศมี สิงขรณ์ อายุ 65 ปี เกษตรกรชาวสวนที่ได้รับกระทบจากภัยแล้ง พบว่าชาวสวนกำลังให้คนงานเร่งดำเนินการติดตั้งมอเตอร์สูบน้ำ บริเวณริมคลองยายแข หวังสูบน้ำไปกักเก็บไว้ในสระน้ำในสวน

ซึ่งจากสภาพในคลองพบมีเพียงแอ่งน้ำขนาดย่อมๆ และมีสีน้ำยังขุ่นแดง ส่วนบริเวณโดยรอบยังมีแต่เศษดินโคลน ซึ่งต้องรอทางเทศบาลและกลมชลประทาน ปล่อยน้ำดิบมาลงไว้ในลำคลองแห่งนี้ตามวันเวลาที่กำหนด ชาวสวนถึงจะสามารถสูบน้ำไปกักเก็บไว้ได้

จากการสอบถาม นายรัศมี บอกว่า ปีนี้แม้เพิ่งเข้าสู่หน้าแล้ง แต่ฝนได้ทิ้งช่วงติดต่อกันนานหลายเดือน ทำให้ปริมาณน้ำในสระและจากแหล่งน้ำสาธารณะเดิม ลดลงอย่างน่าห่วง เกรงว่าอาจจะเกิดภัยแล้งรุนแรง

โดยเฉพาะปีนี้ ผลผลิตที่กำลังมีอายุใกล้เก็บเกี่ยว ทั้ง ทุเรียน ที่มีราคาซื้อขายอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละกว่า 200 บาท และมังคุด ที่มีราคาซื้อขาย ช่วงต้นฤดูอยู่ที่กิโลกรัมละ 190 บาท อาจจะได้รับความเสียหายถึงขั้น “ยืนต้นแท้งลูกตายทั้งกลม” ซ้ำรอยปรากฏการณ์ เอลนีโญ่ เมื่อปี 2558-2559

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ชาวสวนในพื้นที่ จำเป็นต้องหาแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในหน้าแล้งปีนี้ แม่ว่าแต่ละแห่งจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม แต่ก็อาจจะสามารถช่วยบรรเทาให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ นอกจากนี้ยังต้องควักกระเป๋าลงทุน ในการจัดหาซื้ออุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการสูบทอยน้ำ ทั้งมอเตอร์ ท่อส่งน้ำ และอุปกรณ์ไฟฟ้า เบื้องต้นทุนจะอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท

ขณะเดียวกัน ในคลองยายแข ที่นำมอเตอร์มาติดตั้งไว้รอสูบน้ำ ชาวสวนจะได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทางกรมชลประทาน ที่จะดำเนินการส่งน้ำดิบจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จากพื้นที่ บ้านคลองมะลิ ต.อ่างคีรี ซึ่งรับปริมาณน้ำมาจากเขื่อนคีรีธาร

โดยจะส่งมาตามท่อน้ำดิบสาขา เพื่อนำมาปล่อยไว้ในแหล่งน้ำแห่งนี้ และแหล่งน้ำสาธารณะขนาดใหญ่อื่นๆ เพื่อให้ชาวสวนได้นำน้ำไปกักเก็บไว้ในแหล่งน้ำเดิมที่มีอยู่ เพื่อจะได้มีน้ำไว้ใช้ตลอดหน้าแล้งปีนี้ได้ต่อไป