ภรรยาร่ำไห้ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา สามีเสียชีวิตแล้ว หลังสายสื่อสารเกี่ยวรถล้ม ลูก 3 คนไร้ที่พึ่ง สูญเสียหัวหน้าครอบครัว ซัดบริษัทเจ้าของสายมักง่าย ยันเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณี นายบุญเกิด พรมวัฒน์ อายุ 40 ปี ขี่รถจยย.ไปซื้อของ ถูกสายสื่อสารเกี่ยวคอ ตรงข้าม รพ.ลำดวน จ.สุรินทร์ อาการสาหัส กะโหลกร้าว ไม่รู้สึกตัว ที่ตัวพบสายสื่อสารพันอยู่บริเวณคอและมือ รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เหตุเกิดคืน วันที่ 28 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บอยากให้บริษัทเจ้าของสายสื่อสารรับผิดชอบและอยากให้จัดเก็บสายต่าง ๆ ที่ห้อยตามถนนให้เรียบร้อย
ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญเกิด ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อคืนวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังบาดเจ็บสาหัสกะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงอย่างมาก ขณะที่ภรรยายังทำใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตำรวจตรวจสอบว่าสายสื่อสารเป็นของบริษัทใด
โดยตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายบุญเกิด ที่บ้าน ต.ลำดวน อ.ลำดวน และจะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันพุธที่ 4 พ.ค. ที่วัดสุวรรณรัตน์โพธิยาราม ต.ลำดวน
ทาง นายจิรพงษ์ วรรณสุทธิ์ จนท.สนง.กสตช.เขต 22 อุบลราชานี เดินทางมาพบกับ ร.ต.อ.กฤติพงษ์ หงส์สูง รอง สารวัตรสอบสวน.สภ.ลำดวน ร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อทำหนังสือขอสายสื่อสารของกลางจากตำรวจไปเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นของบริษัทใด ซึ่งจะได้เรียกให้เข้ามารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นและดำเนินคดี
ต่อมาช่วงบ่าย จนท.จากสนง.ยุตธรรมจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่มาพบครอบครัวผู้ตายเพื่อแนะนำขั้นตอนหลักเกณฑ์และวิธีการรวบรวมเอกสารเพื่อยื่นขอรับเงินเยียวยาตามกฎหมาย ขณะที่ จนท.สนง.การไฟฟ้าอำเภอลำดวน ได้ปีนขึ้นตรวจสอบจุดที่สายสื่อสารขาด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจสอบว่าสายดังกล่าวพาดผ่านมายังจุดใดไปยังจุดใด จึงเกิดอุบัติเหตุ
นางสาวพริรา ภรรยาของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันและเร็วเกินที่จะทำใจได้ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าสายสื่อสารดังกล่าวเป็นของบริษัทใด แต่หลักฐานเราเก็บไว้หมดแล้ว ฝากถึงบริษัทสายเหล่านี้ ให้เก็บให้เรียบร้อยให้ดีกว่านี้ เพราะอันตรายมาก เราต้องสูญเสียที่พึ่ง ผู้นำครอบครัวคนสำคัญในชีวิตของเราไป กับสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นจากความมักง่ายของบริษัทสายสื่อสาร สามีทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม่เขาก็มีสามีเป็นลูกชายคนเดียวที่ช่วยดูแลทั้งบ้าน
สามียังต้องดูแลลูกอีก 3 คน ที่อยู่ในวัยเรียน มันเร็วเกินไปทำอะไรไม่ถูกเลย ตอนแรกคิดว่ารถล้มธรรมดา พอมาเห็นสภาพตนก็รับไม่ได้ ที่คอมีรอยสายสื่อสาดรัดอย่างชัดเจน น่าจะทรมานมาก กะโหลกร้าวเลือดคั่งในสมอง ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ได้บอกลากันแม้สักคำเดียว อยากให้บริษัทสายสื่อสารออกมารับผิดชอบให้ถึงที่สุด เพราะเรามีกันอยู่แค่นี้ ไหนค่าใช้จ่ายลูกเรียนหนังสือ ไหนจะค่าบ้านที่ผ่อนอยู่อีกหลัง
ไม่มีใครใครหารายได้มาดูแลครอบครัว เขามีรายได้มาจากการขับรถตู้ทางเดียว ลูกค้ากับติดกำลังเยอะ วิ่งแทบไม่มีวันว่าง วันเกิดเหตุช่วงตี 3 เขาก้พึ่งกลับมาจากเกาะช้าง จ.ตราด หลังจากนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไง ลูกกำลังเรียน หนี้สินก็มี แม่สามีก็ต้องดูแล อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก ขอให้เป็นเคสสุดท้ายเกี่ยวกับสายไฟ
ด้าน นายจิรพงษ์ กล่าวว่า ตนมาจาก สนง.กสทช.เขต 22 จ.อุบลราชธานี เพื่อมาพิสูจน์ทราบสายสื่อสารที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นข้อมูลให้พนักงานสอบสวน ใช้ในการเรียกเจ้าของสายมารับผิดชอบเยียวยาต่อไป ซึ่งยังไม่ทราบชื่อบริษัทเจ้าของสายสื่อสาร ต้องนำไปตรวจสอบก่อน ซึ่งทาง สนง.กสทช.เขต 22 อุบลราชธานีก็มีงานเก็บสายสื่อสารต่างๆให้เรียบร้อยร่วมกับไฟฟ้าและผู้ประกอบการ แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมได้ทั่วถึง