#ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์! พรรคไทยสร้างไทยนำลงชื่อฟ้องรัฐบาล

Home » #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์! พรรคไทยสร้างไทยนำลงชื่อฟ้องรัฐบาล
#ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์! พรรคไทยสร้างไทยนำลงชื่อฟ้องรัฐบาล

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 64 พรรคไทยสร้างไทย โพสต์แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทยผ่านเพจเฟซบุ๊ก “พรรคไทยสร้างไทย” พร้อมแบบฟอร์มลงชื่อฟ้องรัฐบาล ระบุขอเป็นตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารจัดการของรัฐบาล โดยข้อความทั้งหมดระบุว่า

“แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย

เรื่องมติ ครม. อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรคสาม ซึ่งระบุไว้ว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” 

ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมมิให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 “ซึ่งเป็นโรคติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ” แพร่ระบาดในวงกว้าง ปรากฏตามประกาศฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 นั้น 

โควิด-19 จึงเป็นโรคติดต่ออันตรายที่รัฐมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการทั้ง “ป้องกัน” และ “ขจัดอันตราย” ให้กับประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรคสาม ซึ่งระบุไว้ว่า “บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย” 

เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงทางการแพทย์ว่า วัคซีนซิโนแวคที่รัฐจัดหามาให้กับประชาชนกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้น้อยและมีประสิทธิภาพเพียงป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต แต่ไม่สามารถ “ป้องกัน” การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (Delta) หรือสายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังแพร่ระบาดและเป็นอันตรายต่อชีวิตของประชาชนได้ ขณะที่ข้อมูลและสถิติทางวิชาการด้านสาธารณสุขชี้ให้เห็นว่า มีวัคซีน mRNA ที่สามารถป้องกันและขจัดโรคติดต่อที่เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชน ได้ตรงตามเจตนารมณ์ต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรคสาม

ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้มีการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มอีก 10.9 ล้านโดส วงเงิน 6,100 ล้านบาท เมื่อวัคซีนดังกล่าวไม่สามารถ “ป้องกัน” การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดได้ การจัดซื้อวัคซีนดังกล่าวจึงขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 55 ผู้ที่สั่งซื้อและคณะรัฐมนตรีอาจมีความผิดฐานจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอันถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

พรรคไทยสร้างไทยจึงเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและคณะรัฐมนตรีได้ทบทวนการสั่งซื้อวัคซีนที่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายและเร่งจัดหาวัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอันเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญต่อไปโดยเร็ว 

โดยถือว่าแถลงการณ์ฉบับนี้เป็นการแจ้งประเด็นที่มติ ครม.ดังกล่าวอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพรรคไทยสร้างไทยได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้รับทราบแล้ว”

“ในสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 รัฐบาลประยุทธ์ใช้ภาษีของประชาชนดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความเสียหาย จนคนไทยล้มตาย เศรษฐกิจไทยพังพินาศ โดยไม่สนใจข้อมูลที่ถูกต้องจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญ

พรรคไทยสร้างไทย ขอเป็นตัวแทนภาคประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารจัดการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์จัดการโควิด-19 

มติ ครม. อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรคสามและมาตรา 55 ผู้ที่สั่งซื้อและคณะรัฐมนตรีอาจมีความผิดฐานจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอันถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 

ร่วมลงชื่อ ฟ้องรัฐบาลฆาตกร ได้ที่ 

https://forms.gle/z8nJfz8tSwkSQYcn8

 ในขณะเดียวกัน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมติดแฮชแท็ก #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร

“แพทย์ออกมายืนยันแล้วว่า วัคซีนซิโนแวค ทำได้แค่ลดความรุนแรง ไม่สามารถป้องกัน #โควิด19 ได้

การที่ ครม. มีมติ ซื้อชิโนแวคเพิ่มอีก 6 พันล้านบาท โดยไม่ซื้อวัคซีนที่ป้องกันโควิดได้ให้กับประชาชน

พวกเรามีสิทธิ #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร มีมติขัดรัฐธรรมนูญ อันเป็นความผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญาได้ค่ะ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ