ฟิลิปปินส์ “บังคับ” – สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า ฟิลิปปินส์ขยายกฎระเบียบบังคับให้ผู้โดยสารรถไฟสวมใส่ “หน้ากากอนามัย” ท่ามกลางการระบาดของ โรคโควิด-19 ที่มีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่นานมานี้
ผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟรางเบา และรถไฟสายหลักทั่วเขตเมโทรมะนิลา ครอบคลุม 16 เมืองใหญ่ รวมถึงกรุงมะนิลา จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการระบบรถไฟซึ่งมีผู้โดยสารอย่างน้อยวันละ 500,000 คน
ฟิลิปปินส์ออกกฎให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะโดยสมัครใจตั้งแต่เดือนต.ค.2565 แต่ไม่ได้บังคับให้สวมหน้ากากอนามัยบนรถไฟและยานพาหนะขนส่งมวลชนอื่นๆ
ด้าน น.ส.จอร์เจ็ตต์ อาคิโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมฟิลิปปินส์ กล่าวว่าออกมาตรการเข้มงวดให้ผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยบนรถไฟ เนื่องจากรถไฟเป็นพื้นที่ปิด การฉีดวัคซีนไม่ได้รับประกันว่าจะไม่แพร่เชื้อ ดังนั้นจึงอาจจะแพร่เชื้อโรคให้แก่ผู้อื่นได้
ส่วนน.ส.มาเรีย โรซาริโอ เวอร์เจอรี ผู้บริหารกรมอนามัยเชื่อว่าประชาชนสวมหน้ากากอนามัยด้วยความสมัครใจได้ต่อไป ตราบใดที่ประชาชนทราบว่าควรจะใส่เมื่อไหร่
ขณะที่มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นจากวันละ 274 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นวันละ 371 รายในปัจจุบัน
แม้จำนวนผู้ป่วยไม่มากเท่ากับหลายปีที่ผ่านมา
แต่กรมอนามัยยกระดับเตือนภัยโควิดใน 26 จังหวัด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น ปาลาวันและเซบู โดยเฉพาะสถานที่ที่ผู้คนหนาเน่น รวมทั้ง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงยิมและโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 4 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 66,000 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สเปนเลิกบังคับ “สวมแมสก์” ในระบบขนส่งสาธารณะ-หลังอัตราการติดเชื้อลดลง
- เปรูเตรียม “เลิกสวมแมสก์” ในที่สาธารณะ-ลุ้นฉีดวัคซีนโดส 3 ถึง 80% เร็วๆ นี้