เกิดเรื่องราวน่าเศร้าขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 ที่ จ.ลำปาง น้องอุ้ม เด็กสาววัย 16 ปี เสียชีวิตหลังฉีดไฟเซอร์เข็มที่ 2
แม่น้องอุ้ม เล่าว่า ตนเป็นคนเกลี้ยกล่อมให้ผู้ปกครองที่เปิดกลุ่มไลน์ด้วยกันยอมให้ลูกฉีดวัคซีน เพราะอยากเห็นลูกไปโรงเรียน ไปเที่ยว เข้าสังคมได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่อยากให้ลูกเป็นแกะดำของสังคม อยากให้ความร่วมมือกับนโยบายของรัฐบาล แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวของตนเอง
“ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ลูกจากไปเร็วเกิน ไม่มีลางบอกเหตุใดๆ เลย ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกไป” แม่บอก
แม่เล่าว่า ลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 64 ไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นหลังฉีด และมารับวัคซีน Pfizer เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ฉีดวัคซีนเสร็จประมาณ 13.32 น. ก็กลับบ้าน ซึ่งตอนแรกลูกก็ปกติ
จนวันที่ 28-29 ต.ค. 64 ลูกเริ่มมีอาการปวดท้อง ท้องเสียต้องเข้าห้องน้ำ และมีอาการอาเจียนร่วมด้วย แม่คิดว่าอาหารเป็นพิษ จึงไม่ได้คิดอะไร แต่ลูกก็ยังเข้าห้องน้ำ และอาเจียนตลอดทั้งคืน จนลูกเริ่มอ่อนเพลีย แม่จึงให้ทานยาพาราทุก 4 ชั่วโมง ให้ทานโจ๊ก เกลือแร่ และยาแก้อาเจียน อาการท้องเสียเริ่มลดลง แต่อาเจียนยังมีเป็นระยะ
จนกระทั่งเช้าวันที่ 3 พ.ย. 64 หมอก็บอกว่าหัวใจของลูกหยุดเต้น ซึ่งผลการชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต คือ ลิ่มเลือดอุดกั้นปอดทั้ง 2 ข้าง ร่วมกับการติดเชื้อในกระเเสเลือด
หลังจากที่ลูกเสียชีวิตแล้ว พ่อแม่ก็ทำการรับศพไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดศรีล้อม (แสงเมืองมา) ต.เวียงเหนือ เทศบาลนครลำปาง ขณะที่เพื่อนๆ ในห้องเรียนที่มาช่วยงานศพ ก็บอกว่าในห้องเรียนมี 1 คน ไม่ยอมฉีดวัคซีน ส่วนที่เหลือฉีดทุกคน โดยคนอื่นๆ ก็จะมีอาการเล็กน้อยเช่นเจ็บบริเวณแขน และมีไข้บ้างเท่านั้น ซึ่งตกใจมากที่เพื่อนเสียชีวิตเพราะเป็นช่วงที่เรียนออนไลน์ที่บ้านจึงไม่ได้เจอกัน แต่อุ้มเป็นเพื่อนที่ดีชอบช่วยเหลืองานเพื่อนเสมอ ทุกคนก็เสียใจมากที่เพื่อนจากไปเร็วแบบนี้
พ่อแม่ของน้องอุ้ม ได้บอกทีมข่าวอีกว่า ตั้งแต่ที่รับศพน้องออกจากโรงพยาบาลจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามเรื่องราวใดๆ เลย ตนอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ อย่างน้อยก็มาช่วยเยียวยาครอบครัวของตนบ้าง เพราะเชื่อว่าการเสียชีวิตของลูกเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีน ซึ่งยอมรับว่าทำใจยากมากที่ลูกจากไปเร็วแบบนี้