พ่อแม่น้องเต้ บัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม ลุยฟ้อง16ล้าน คู่กรณี เยาวชน16 นักกีฬาทีมชาติ ซิ่งบีเอ็มผ่าไฟแดง หัวอกคนเป็นพ่อ เห็นรูปลูกชายน้ำตาไหลตลอดเวลา
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 มี.ค.2566 ที่สำนักงานสภาทนายความภาค 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนายธนพล แก้วมูล หรือน้องเต้ อายุ 24 ปี บัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยมีนายรักษ์ แก้วมูล อายุ 59 ปี พ่อ นางบุญลือ แก้วมูล อายุ 57 ปี แม่ น.ส.พัชราภรณ์ แก้วมูล อายุ 35 ปี พี่สาว และเพื่อนสาวน้องเต้ 2 คน ได้เดินทางมาพร้อมอกสารหลักฐาน เพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา
ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางคดีแพ่งกับครอบครัวของเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ขับรถ BMW ฝ่าไฟแดงจนไปชนกับรถจยย.ของน้องเต้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 จนทำให้น้องเต้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวมเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท โดยมี นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3,นายปัญญา ธีระรัตนานนท์ เลขานุการคณะกรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3, นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และนางผกากรอง ทนหมื่นไวย กรรมการ เป็นผู้รับเรื่อง
นายรักษ์ แก้วมูล อายุ 59 ปี พ่อของน้องเต้ กล่าวว่า ตั้งแต่สูญเสียน้องเต้ไปก็ยังทำใจยอมรับไม่ได้ เพราะทุกวันนี้อยู่บ้านมองเห็นรูปและอัฐิของน้องเต้ทีไรน้ำตาจะไหลตลอดเวลา รู้เสียใจมากเนื่องจากทุ่มเททุกอย่าง พยายามดิ้นรนหาเงินส่งเสียจนน้องเต้เรียนจบ น้องเต้เคยบอกกับตนว่าจะเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอก ซึ่งจะทำให้ตนและครอบครัวดีใจมาก ก็คงเหมือนกับพ่อของเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ขับรถชนน้องเต้เสียชีวิต ซึ่งคงจะดีใจและภูมิใจกับลูกชายที่ได้เป็นนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย
ดังนั้นความสูญเสียในครั้งนี้จึงไม่สามารถตีราคาออกมาเป็นจำนวนเงินได้ ความฝันลูกของตนจะยังคงไปต่ออีกไกล วันนี้จึงได้มาขอให้สภาทนายความ ช่วยฟ้องคดีแพ่งกับคู่กรณี เพื่อชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตน แม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนชีวิตของลูกชายได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็เพื่อให้ผู้ก่อเหตุได้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ถึงที่สุด สุดท้ายตนอยากขอบคุณทางสภาทนายความ บริษัทที่น้องเต้เคยทำงานด้วย และประชาชนคนไทยที่ยังคงเป็นกำลังใจให้กับตนตลอดมา
ด้านนายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 กล่าวว่า ญาติของผู้เสียชีวิต ก็ได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ กับสภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่ง ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชภูปถัมภ์ ก็ได้มอบหมายให้คณะกรรมการสภาทนายความภาค 3 ในพระบรมราชูปถัมภ์ รับเรื่องมาดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือเรื่องคดี
และวันนี้ทางสภาทนายความภาค3 ก็ได้เตรียมที่จะยื่นฟ้องคดีแพ่งกับคู่กรณี ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเด็กที่ขับรถบีเอ็มดับบลิว และผู้ปกครอง เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมูลละเมิด ซึ่งประกอบไปด้วย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะเลี้ยงดู และค่าขาดแรงงานรายได้ หลังจากที่น้องเต้ได้เสียชีวิตไป รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 16,600,000 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ต้องฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายตามเงินจำนวนนี้ เนื่องจากพิจารณาว่า หลังจากที่น้องเต้ศึกษาจบ ก็ได้รับการรับเข้าทำงานที่บริษัทด้านคมนาคมในทันที โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่เป็นระดับมหาชนจำกัดด้วย ซึ่งเงินเดือนที่ได้รับขณะเสียชีวิต ประมาณ 20,000 บาท ไม่นับรวมค่าทำงานล่วงเวลา และค่าสวัสดิการอื่นๆ ถือว่าเป็นงานที่มีความมั่นคงสูงมาก
และล่าสุดบริษัทได้ส่งตัวมาควบคุมดูแลด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับโทรคมนาคม ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ซึ่งการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ มีการเจริญเติบโตค่อนข้างสูง มีทั้งเงินโบนัสประจำปี การขึ้นเงินเดือนเป็นลำดับขั้น เมื่อคำนวณรายได้จากวันที่เสียชีวิต ไปข้างหน้าอีก 25 ปี คาดการณ์ว่าน้องเต้จะได้รับเงินเดือนจากบริษัทแห่งนี้ถึงเดือนละกว่า 190,000 บาท ซึ่งตรงนี้เองทางสภาทนายความ คาดว่าเงินเดือนที่ได้รับสามารถแบ่งมาอุปการะครอบครัวได้
อย่างน้อยจะเป็นตัวเลขครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด จึงเป็นที่มาของตัวเลขจำนวนเงินกว่า 16 ล้านบาทดังกล่าว ซึ่งถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่สูงเกินไป แต่เป็นจำนวนเงินที่มีความสมเหตุสมผลมากที่สุดแล้ว โดยหลังจากยื่นฟ้องในวันนี้แล้ว หากศาลพิจารณารับคำฟ้อง ศาลก็จะส่งสำเนาหมายเรียกและสำเนาฟ้องให้จำเลยทั้ง 4 คน หลังจากนั้นก็จะมีกำหนดระยะเวลาต่อสู้คดี จะมีข้อโต้แย้งที่จะต่อสู้ในคดี ก็จะมีกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การ
หลังจากยื่นคำให้การแล้วศาลก็จะมีกำหนดระยะเวลาชี้สอบมาตรฐาน ศาลอาจจะมีการนัดไกล่เกลี่ยก่อน ถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยานฝ่ายโจท และฝ่ายจำเลย หลังจากนั้นศาลก็จะพิจารณาคดีต่อไป
อ่าน : ระอุกลางรายการ! พ่อหนุ่ม 16 ขับบีเอ็มชน ‘น้องเต้’ ดับ ลั่นจนปัญญาจ่าย 15 ล้าน
อ่าน : สุดเศร้า! หนุ่มวัย 16 ขับบีเอ็มฯ ชนบัณฑิตป้ายแดงได้เกียรตินิยม ดับสลดคาที่