“พิธา”ไม่กังวลหาก ศาล รธน.ยุบพรรคก้าวไกล ยันเดินหน้าต่อ เตรียมแผนสำรองไว้นานแล้ว แต่เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นยุบพรรคก้าวไกลว่า มีทีมเตรียมข้อมูลโดยแบ่งเป็น 2 ก้อน คือ คดีของ กกต.และคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งกำลังไล่ดูว่า รายละเอียดของ กกต. ยังขาดอะไรอยู่บ้าง และ ป.ป.ช. หากเทียบกับคดีที่ศาลฎีกาเมื่อสมัยก่อนในการตัดสินคดีของนางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ รวมถึงนายสิระ เจนจาคะ ใช้เวลาเท่าไหร่
ทั้งนี้ ทาง ป.ป.ช. ใช้เวลาเท่าไหร่เราก็ทำงานกลับและเตรียมอธิบายสู้คดี เรื่องเกี่ยวกับน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นมาตรา 49 ที่ตัดสินไปเมื่อวันที่ 31 มกราคม และมาตรา 92 อันหนึ่งเป็นมาตรฐานที่ไว้ใช้ป้องกันอีกอันเป็นมาตรฐาน ที่ใช้ประหารพรรคการเมือง น้ำหนักมันคนละอนุมาตรากัน สมมุติแม้จะมีคำว่าล้มล้างเหมือนกันแต่ไม่ได้หมายความว่าโทษจะได้สัดส่วนเหมือนกัน
เราจะต้องมีดุลยพินิจว่ามาตราหนึ่งมีไว้แค่ตักเตือน บอกให้หยุดการกระทำแต่อีกมาตราหนึ่งมีไว้เพื่อที่จะยุบพรรค และนำไปสู่การริดรอนสิทธิทางการเมือง ในการลงเลือกตั้งครั้งต่อไป และเชื่อว่าศาลจะให้ความยุติธรรม และให้น้ำหนักมากกว่าเรื่องของมาตรา 49
นายพิธา ยังยืนยันว่า ไม่มีความกังวล หากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เพราะเราต้องเตรียมการทำงานล่วงหน้าสำหรับการทำงานของพรรคก้าวไกล คิดว่าเหมือนกับการเขียนหนังสือ มีชัตเตอร์ที่ 1 ชัตเตอร์ที่ 2 ชัตเตอร์ที่ 3 แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุดมการณ์ ปณิธาน และนโยบาย ที่พี่น้องประชาชนให้มา 14 ล้านเสียง เราก็เดินหน้าต่อแน่นอน ไม่ว่าจะมีพรรคก้าวไกลหรือไม่มีพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะมีผลหรือไม่มีผล ดังนั้น แสดงว่าเตรียมแผนรองรับหากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วใช่หรือไม่ นายพิธา ย้ำว่า “เตรียมมานานแล้ว”