พิธา แจงดราม่างานศพพ่อ พร้อมโชว์หลักฐาน เข้าใจใกล้เลือกตั้งแล้ว จึงมีอะไรทำนองนี้ ทราบดีว่าเป็นปกติของการเมือง ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร
26 เม.ย. 2566 – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอบกรณีดราม่าการกลับมางานศพพ่อของตนเองไม่ทันหลังจากรัฐประหาร 2549 แต่มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นเพื่อนของพ่อตน โพสต์เฟซบุ๊กบอกว่าตนโกหก เพื่อเรียกกระแส
นายพิธา ระบุว่า ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาอธิบายหนึ่งในเหตุการณ์บีบหัวใจผมที่สุดในชีวิต นั่นคือการสูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รักอย่างกระทันหัน โดยที่ไม่ได้มีโอกาสร่ำลากัน ในช่วงการรัฐประหาร 2549
ต่อประเด็นที่มีความพยายาม นำบทสัมภาษณ์ของผมกับคุณสรยุทธ์เมื่อไม่สัปดาห์ก่อน ไปเปรียบเทียบกับบทสัมภาษณ์ของผมกับคุณหนูแหม่ม สุริวิภา เมื่อสิบกว่าปีก่อน ว่าผมให้สัมภาษณ์ 2 ครั้ง ไม่ตรงกัน
ผมขอยืนยันความจริงโดยรูปภาพ 3 ภาพครับ เพื่อให้กระจ่างและจะกลับไปมีสมาธิหาเสียงต่อครับ
รูปที่ 1 แสดงให้เห็นว่างานศพของคุณพ่อผมนั้นเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-24 กันยาครับ ต่อคำถามว่า สรุปแล้วมาทันหรือไม่ทันกันแน่ คำตอบ คือ มาทันครึ่ง (วันที่ 22-24) “และ” ไม่ทันครึ่ง (วันที่ 18-20 ) ครับ ทั้งการสัมภาษณ์ของคุณสุริวิภากับของคุณสรยุทธ์จึงไม่มีอะไรขัดแย้งกันครับ
รูปที่ 2 อ้างอิงถึง ข่าวจาก Channel News Asia รายงานว่า วันที่ 21 กันยายน 2549 เครื่องบินรัฐบาลไทยที่กลับสู่ประเทศไทยหลังการรัฐประหาร โดยลงจอดที่สนามบินกองทัพอากาศ ในช่วงประมาณ 12.40 น. ซึ่งเป็นเครื่องบินลำที่ผมโดยสารมาจากนิวยอร์กและลอนดอน จากรายงายข่าวจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวและตรวจสอบบนเครื่องบินอย่างละเอียด ผมถูกกักตัวอยู่ 5-6 ชั่วโมง กว่ารถบัสจะออกมา กว่าจะมีรถของผมมารับ ก็ถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ผมจำได้ว่าถึงบ้านก่อนคุณแม่และน้องที่ใส่ชุดดำกลับมา แล้วเราก็กอดกันเป็นครั้งแรกหลังสูญเสียคุณพ่อ
ส่วนเรื่องข่าวที่มีบุคคลอ้างว่าเป็นเพื่อนพ่อ บอกว่าเห็นผมในงานศพพ่อตั้งแต่วันแรก ซึ่งก็คือ วันที่ 18 คงจะเข้าใจผิดนะครับ เป็นไปไม่ได้ครับ จำเป็นน้องชายผมรึเปล่า เพราะหลักฐานก็ชัดว่าวันนั้น ผมยังอยู่ที่อเมริกาอยู่เลยนะครับ
รูปที่ 3 คือรูปถ่ายของครอบครัวและผมในงานศพของคุณพ่อ ในวันที่ 22 กันยายน 2549 หลังจากนั้น ก็เก็บศพคุณพ่อไว้อีกน่าจะ 100 วันก่อนเผาครับ
อย่างที่ผมเคยได้พูดในหลายโอกาส เมื่อคุณเข้าสู่การเมือง และโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ก็จะมีการโจมตีกันมาเรื่อย ๆ จากนี้เป็นต้นไป ซึ่งผมก็ทราบดีว่าเป็นปกติของการเมือง ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร ขอให้ทุกคนมีสมาธิกับการหาเสียงและเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชนต่อไปครับ