'พิธา' ยัน มีลุงไม่มีเรา ฝากถึง สว. ไม่ฝืนมติประชาชน จ่อยื่นเงื่อนไข ทำเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 

Home » 'พิธา' ยัน มีลุงไม่มีเรา ฝากถึง สว. ไม่ฝืนมติประชาชน จ่อยื่นเงื่อนไข ทำเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 


'พิธา' ยัน มีลุงไม่มีเรา ฝากถึง สว. ไม่ฝืนมติประชาชน จ่อยื่นเงื่อนไข ทำเอ็มโอยูตั้งรัฐบาล 

‘พิธา’ ยัน อุดมการณ์เดิม มีลุงไม่มีเรา ฝากถึง สว. คงไม่โหวตฝืนมติประชาชน จ่อยื่นเงื่อนไขทำเอ็มโอยู จัดตั้งรัฐบาล ชี้ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นแค่สะพานผลักดันนโยบาย

เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 14 พ.ค.2566 ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงหลังจากทราบผลโพล 3 สำนัก พรรคก้าวไกล มีคะแนนนำว่า โพลจาก 3 สถาบันทิศทางเป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะนิด้าโพลที่กทม.พรรคก้าวไกลได้ 32จาก 33เขต เชื่อว่าเป็นตามนั้น ขณะที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ แม้ผลโพลจะน้อยไป

แต่จากการรายงานในพื้นที่พบว่า หลายพื้นที่พรรคก้าวไกลมีคะแนนนำอยู่ สิ่งที่พอสรุปได้คือ ที่1ของก้าวไกลมีสิทธิเป็นไปตามโพล ดูแล้วตัวเลขคะแนนพรรคก้าวไกลจะทะลุ 3 หลักแน่นอน ถ้าโพลเป็นเช่นนั้น พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ก็มีเสียงเพียงพอจับมือตั้งรัฐบาลเป็นเสียงข้างมากได้ เป็นนิมิตรหมายที่ดี การเปลี่ยนแปลงมาถึงประเทศไทยแล้ว ส่วนคะแนนนอกราชอาณาจักรและนอกเขต ที่พรรคก้าวไกลก็ต้องขอบคุณ จะทำงานไม่ให้ทุกคนผิดหวัง

เมื่อถามว่า จะคุยพรรคเพื่อไทยเรื่องตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย รอมติประชาชนให้นับจนเสร็จก่อน คงมีโอกาสได้คุยกัน 4-5ทุ่มเป็นต้นไป จะได้ยินดีกัน จะให้กรรมการบริหารพรรคร่วมตัดสินใจด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมทำงานตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า การทำงานร่วมกันของฝ่ายค้านจะตอบโจทย์ความท้าทายประเทศที่สุด เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปด้วยกัน

ทั้งนี้การจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีการทำเอ็มโอยูและตั้งเงื่อนไข จะต้องปรึกษากับกรรมการบริหารพรรคก่อน ถ้าพรรคก้าวไกลมีอำนาจต่อรองก็จะต่อรองเพื่อประชาชน คิดถึงประชาชนเป็นตัวตั้ง ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นแค่สะพานผลักดันเรื่องนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน เรื่องจำนวนไม่ได้ซีเรียส แต่สิ่งที่สัญญากับประชาชนต้องทำให้สำเร็จ

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะมาร่วมตั้งรัฐบาลด้วยเป็นไปไหม นายพิธา ตอบว่า ใครเปลี่ยนอุดมการณ์คุยกันยากหน่อย แต่จุดยืนที่ชัดอยู่คือ มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคทหารจำแลงทั้งสองพรรค ไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคคือ ไม่ได้อยู่ในครม.ของเรา หากมีการเปลี่ยนอุดมการณ์จริง ก็ต้องมาพูดคุยกันว่า อุดมการณ์ตอนนี้คืออะไร

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นอันดับ 1พร้อมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า แน่นอน เพราะเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย พรรคที่มาเป็นที่1 ย่อมมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลมากที่สุด

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเป็นที่ 1 แต่มีอุปสรรคอยู่ที่ส.ว.ไม่โหวตให้ จะทำอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดเดาถึงขณะนั้น บางทีเราอาจมีโจทย์หลอก หรือคิดไปเองมากเกินไป เชื่อว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา วุฒิสภาเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยพอสมควร ส.ว.หลายคนพูดว่าไม่ต้องการฝืนมติประชาชน

ดังนั้นต้องดูน้ำหนักการเมืองอีกครั้ง เมื่อประชาชนแสดงเจตจำนงแล้วต้องการให้ใครเป็นคนแบกความฝัน ความหวัง ไม่ควรมีใครไปฝืนมติประชาชนหมู่มาก ไม่เป็นสิ่งดี รวมถึงคนที่จะโหวตสวนด้วย

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะมีการลดเพดานเรื่องจุดยืนทางการเมือง ในการตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีการลดเพดานจุดยืนทางการเมือง จุดยืนเรายังเหมือนเดิม แต่ถ้าจะถามว่า นโยบายใครก่อนหรือหลัง เป็นเรื่องระบบรัฐสภา ต้องดูน้ำหนักการเมืองว่า ใครมาเป็นอันดับ1และ2 ต้องมาเจรจากัน อะไรที่เห็นร่วมด้วยกัน ก็ช่วยกันดำเนินการให้เกิดขึ้นได้ 3-4 นโยบายที่เป็นเรื่องหลักของพรรคก้าวไกลไม่ต่างกับนโยบายหลักพรรคเพื่อไทยมาก เชื่อว่าจะทำตามโรดแม็ปที่ต้องการได้

เมื่อถามว่า หากนายพิธาเป็นนายกฯจะสื่อสารกับคนที่เห็นต่างอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ต้องใช้ความอดทน มีวุฒิภาวะ เพราะทุกสังคมมีความขัดแย้ง อยู่ที่กระบวนการและวิธีทำงานที่มีระบบรัฐสภาสร้างขึ้นมาแก้ไขความขัดแย้ง ถ้ายังยึดมั่นระบบรัฐสภา ทำงานเต็มที่ คืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภา ทำงานตามเจตนารมณ์ประชาชน ไม่ทุจริต ทำให้การเมืองเข้มแข็ง จะแก้ไขความขัดแย้งในสังคมได้ เมื่อถามว่า ประเมินแล้ว ฝ่ายพรรค2 ลุงจะพุ่งขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายพิธาตอบว่า ตัวเลขขณะนี้คงไม่ใกล้ความจริงเท่าไร แสงดว่า ประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องจับตามการนับคะแนนให้บริสุทธ์ที่สุด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ